เจิมถวายวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ป่าฝาง

เจิมถวายวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ป่าฝาง

5 เมษายน 2025

วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ป่าฝาง อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ คุณพ่ออนุวัฒน์ อาศัยรัตน์ คณะพระมหา ไถ่ เจ้าอาวาส คุณพ่อธนกฤต มหาลาภชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และสัตบุรุษ จัดเจิมถวายวัด พระสมณทูต ปีเตอร์ เวลส์ บรรดาพระสงฆ์คณะพระมหาไถ่ คณะเบธาราม สงฆ์พื้นเมือง บรรดามาเซอร์ ซิสเตอร์ และสัตบุรุษมาร่วมพิธีประมาณ 1500 คน พร้อมนายอำเภอ และสจ.ผู้ปกครองท้องถิ่น
.
09:30 น. เริ่มจาก รำดาบ แห่กลอง และขบวนจากวัดเดิมไปสู่วัดใหม่…พิธีบูชาขอบพระคุณ
.
– หลังบทภาวนาเพื่อมวลชน
– การเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่พระแท่น และฝาผนังของวัด
.
11:30 น. เป็นการขอบคุณผู้ร่วมกันก่อสร้างทำให้สิ่งที่คุณพ่อมีชัย อุดมเดช ริเริ่มไว้สำเร็จในสมัยคุณพ่ออนุวัฒน์
เป็นครั้งแรกที่พ่อมีโอกาสเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่พระแท่นของวัด ตามพิธีจารีตใหม่
ดีใจที่วัด มีความร่วมมือของบรรดาพระสงฆ์ คณะพระมหาไถ่ ซิสเตอร์คณะเซนต์ปอลฯ คณะแม่ปอน และบรรดาสัตบุรุษ ทำให้เรามีวัดที่สวยงามอีกหลังหนึ่ง
 
(ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์)

ชุมนุมศิษย์เก่าศูนย์คำสอน แม่ริม

ชุมนุมศิษย์เก่าศูนย์คำสอน แม่ริม

28 -30 มีนาคม 2025

ศูนย์คำสอน แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) มีอายุ ปีที่ 45 ปัจจุบัน บราเดอร์ สารพัน แคเชอ คณะซาเลเซียน ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์คำสอน และคุณพ่อดุรงค์ฤทธิ์ กระบวนสิริ เป็นเจ้าอาวาสวัดนักบุญยอแซฟกรรมกร
.
บราเดอร์ สารพัน ได้จัดชุมนุมศิษย์เก่า 28 รุ่น
+ วันศุกร์ ที่ 28 มีนาคม ตอนเย็นมีการแข่งขันฟุตบอล ระหว่างศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน รุ่นที่ 29 และ มิสซา
+ วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม มีการพบปะกับครูจงดี ศูนย์ประสานงานแพร่ธรรม ศีลอภัยบาป มิสซา
+ วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม
08:00 น. พ่อไปพบกับศิษย์เก่าและนักศึกษารุ่นที่ 29 รวมประมาณ 40 คนพวกเขาทำคลิป 5 นาทีขอบคุณสังฆมณฑล
09:00 น. มิสซาพร้อมญาติพี่น้องของผู้สำเร็จการศึกษา 4 คน และบรรดาสัตบุรุษ
10:30 น. การแสดงของเด็ก และเยาวชน 4 รายการ รับประทานอาหารร่วมกัน ช่วยกันเก็บโต๊ะ เก้าอี้ และเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

(ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์)

25 มีนาคม
สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์

25 มีนาคม สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์

( The Annunciation of the Lord, solemnity )

ในวันสมโภชนี้ พระศาสนจักรเฉลิมฉลองเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ นั่นคือ การรับสภาพมนุษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่นั่นเอง เราหวนระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ที่งดงามนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อของเราที่สำคัญมากที่สุด และเป็นที่จดจำมากที่สุดด้วย ทุกๆครั้งที่เราสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าว ตอนที่กล่าวว่า “พระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ และเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางข้าพเจ้าทั้งหลาย” (ยน 1:14) แสดงถึง พระเจ้าเที่ยงแท้ได้ทรงมาเป็นมนุษย์จริงๆ อันเป็นกิจการแห่งการช่วยให้รอดของพระที่บรรลุจุดหมายที่สูงสุด โดยทรงมอบพระองค์เองให้แก่สิ่งสร้างทั้งมวล – โดยเฉพาะกับมนุษย์โดยตรง

วันสมโภชนี้กระทำในวันที่ 25 มีนาคม เพื่อให้เห็นว่าเป็นช่วงเวลาก่อนถึงวันสมโภชพระคริสตสมภพ ซึ่งเป็นวันประสูติของพระวจนาตถ์ที่ทรงรับเอากาย ที่จะนับต่อไปอีก 9 เดือนพอดี ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันในฐานะเป็นวันสมโภชการแจ้งสารแด่พระนางมารีย์ (The Annunciation of the Blessed Virgin Mary) จนกระทั่งปัจจุบันนี้เราย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิด จึงนำชื่อเรียกตั้งแต่โบราณกลับมาใช้ใหม่ว่า “การแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์” (Annunciation of the Lord) และแท้ที่จริงแล้วก็เป็นการเชื่อมโยงสมโภชขององค์พระผู้เป็นเจ้าและของพระแม่มารีย์ไว้ด้วยกัน ดังที่นักบุญ ปอลที่ 6 พระสันตะปาปา ทรงกล่าวไว้ว่า “เป็นวันสมโภชพระวจนาตถ์ผู้ซึ่งเสด็จมาเป็นบุตรของพระนางมารีย์ และเป็นวันสมโภชของพระนางพรหมจารีย์ผู้ซึ่งได้ทรงเป็นพระมารดาของพระเจ้า”

การแจ้งสารของทูตสวรรค์นี้นำพาเราเข้าไปสู่จุดศูนย์กลางของกระแสเรียกสองภาคส่วนด้วยกัน กล่าวคือ เมื่อพระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ทรงมีจุดประสงค์พิเศษที่จะเสด็จมาเป็นมนุษย์ ถือเป็นกระแสเรียกในแบบจะทรงทำให้มวลมนุษย์เป็นอิสระตลอดนิรันดรจากการทำลายล้างให้เสียหายของบาปและความตาย ในส่วนของพระนางมารีย์ก็ได้สมัครพระทัยเพื่อเติมเต็มกระแสเรียกของพระนางเอง โดยทรงยินยอมให้แผนการที่พระเจ้าทรงดำรินี้เป็นจริงขึ้นมา ดังนั้น การที่พระนางตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38) ได้ก่อให้เกิดกิจการสุดมหัศจรรย์ นั่นก็คือ ธรรมล้ำลึกเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์กลับกลายเป็นความจริงที่ครบสมบูรณ์

สมโภชนี้นำเราให้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระหรรษทาน ความมหัศจรรย์แห่งความรักของพระเจ้าที่ทรงมอบให้เราโดยอิสระ ลึกไปกว่านั้น ความน่าพิศวงของพระนางมารีย์ แม้ทรงดำเนินชีวิตเป็นธรรมดาอย่างที่สุด แต่ก็ทรงได้รับการเรียกจากองค์พระผู้สร้าง นับเป็นแบบอย่างอันดีเลิศให้กับเรา ว่าพระองค์ก็จะทรงเรียกเราแต่ละคนให้ลุกขึ้นไปสู่การเป็นสิ่งสร้างที่น่าพิศวง ตามที่เราทุกคนควรเป็นในรูปแบบที่พระทรงสร้างสรรค์มา

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)

บทภาวนาในวันสมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์

ข้าแต่พระแม่มารีย์ พระชนนีพระเจ้า
เมื่อทูตสวรรค์แจ้งข่าว พระแม่ทรงวุ่นวายพระทัยและทรงหวาดกลัว
แต่พระแม่ก็ทรงรับฟัง และเปิดพระทัยรับข่าวสารของพระเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์

ชีวิตของพระแม่ที่เคยมีแต่ความเรียบง่าย ดุจดังลูกทั้งหลายของอาดัม แต่คำตอบ
“ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” ได้เปลี่ยนชีวิตของพระแม่ และได้นำความรอดพ้นมาสู่ชาวเราทั้งหลาย เพราะพระแม่ได้ทรงเชิญให้พระคริสตเจ้ามาเจริญเติบโตภายในพระแม่

ข้าแต่พระชนนีพระผู้ไถ่ของชาวเรา โปรดช่วยชาวเราให้เปิดใจน้อมรับพระประสงค์ของพระบิดาในการดำเนินชีวิต และโปรดเสนอคำภาวนาของชาวเราต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเทอญ

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเตรียมจิตใจชาวเราให้พร้อมที่จะไว้ใจในพระประสงค์ของพระองค์ โปรดส่องแสงสว่างให้ชาวเราได้เห็นหนทางของพระองค์ โปรดเปิดหูของชาวเราเพื่อจะได้ยินพระวาจาของพระองค์ โปรดวางพระหัตถ์ของพระองค์ลงบนบ่าของชาวเรา เพื่อจะได้มีความมั่นใจในการนำของพระองค์ โปรดส่องแสงลงมาสู่จิตใจที่มืดมนของชาวเรา เพื่อจะได้สว่างไสวไปด้วยแสงของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตารัก โปรดช่วยชาวเราให้รู้และทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า ดุจดังแบบอย่างของพระแม่มารีย์ โปรดให้ชาวเรามีจิตใจที่รู้คุณ และโปรดช่วยให้เราภาวนาเสมอๆ เหมือนดังพระแม่มารีย์ที่ทรงภาวนาว่า :

“วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า
เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์

ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข
พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า

พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์
พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย
พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ

ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป
ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น
พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก

ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า
พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอลผู้รับใช้พระองค์

โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา
ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา

แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป” (ลูกา 1:46-55)

พระสิริรุ่งโรจน์แด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต เหมือนในปฐมกาล บัดนี้และทุกเมื่อตลอดนิรันดร

อาแมน

(คุณพ่อวิชา หิรัญญการ แปลจากบทภาวนา [Novena Prayer] ของวันสมโภชนี้)

19 มีนาคม
สมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี

19 มีนาคม สมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี

( St. Joseph, Spouse of the Blessed Virgin Mary, solemnity )

มีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกให้เป็นผู้ปกป้องคุ้มครองพระแม่มารีย์และเป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้าน้อยมาก เรารู้เพียงว่า “ผู้ชอบธรรม” ที่มีนามว่า โยเซฟนี้ได้รับการกล่าวถึงในสองบทแรกของพระวรสารโดยนักบุญมัทธิวและนักบุญลูกา ส่วนในงานเขียนที่ไม่ได้รับการรับรองว่าเป็นพระคัมภีร์กลับมีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายเรื่อง แต่เราไม่รู้แน่ว่าเป็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์หรือเป็นผลผลิตของจินตนาการที่เลื่อมใสศรัทธาในท่าน หนึ่งในเรื่องที่ไม่มีข้อพิสูจน์บอกว่าท่านมีอายุมากแล้วเมื่อแต่งงานกับพระนางมารีย์ ซึ่งอายุของพระนางนั้นไม่น่าจะเกิน 14 ปี

และเนื่องจากเหตุการณ์ที่ท่านกับพระแม่มารีย์ตามหาจนพบพระกุมารในพระวิหารที่บันทึกไว้ในพระวรสารแล้ว ก็ไม่มีการกล่าวถึงท่านอีกเลย จึงมีเหตุผลน่าเชื่อถือได้ว่าท่านไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงเริ่มต้นประกาศข่าวดีแห่งพระวรสาร ไม่มีใครรู้เรื่องวันและสถานที่ที่ท่านได้สิ้นชีพ และก็ไม่รู้ว่าถูกฝังไว้ที่ไหนด้วย แต่ความศรัทธาที่มีต่อท่านเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยแรกๆ พวกคอปต์ทางตะวันออก (eastern Copts) ได้ฉลองท่านในศตวรรษที่ 4 แล้ว และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับท่านได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าพิศวง

นักบุญเทเรซา แห่งอาวิลา (สเปน) ได้เลือกนักบุญโยเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์คณะคาร์เมไลท์ปฏิรูปของท่าน และบรรดาซิสเตอร์ของท่านได้รับสิทธิพิเศษในปี ค.ศ.1689 ที่จะเฝ้ารักษาวันสมโภชเป็นเกียรติแก่ท่านในฐานะเป็นองค์อุปถัมภ์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักบุญโยเซฟเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดและได้รับความรักมากที่สุดในบรรดานักบุญในพระศาสนจักรคาทอลิก ในลำดับต่อจากพระแม่มารีย์เพียงเท่านั้น ความยิ่งใหญ่ของพระแม่มารีย์และของนักบุญโยเซฟอยู่ที่ความใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้าของพวกท่านทั้งสอง จึงไม่น่าแปลกใจที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ได้ทำตามเสียงเรียกร้องของบรรดาปิตาจารย์มากกว่า 300 คนที่มาประชุมกันในสังคายนาวาติกันครั้งที่ 1 (1869 – 1870) ประกาศเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1870 ว่านักบุญโยเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรสากล และในปี ค.ศ. 1955 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้เพิ่มตำแหน่งว่า “องค์อุปถัมภ์ของบรรดากรรมกร(ผู้ใช้แรงงาน)” โดยกำหนดวันฉลองคือวันที่ 1 พฤษภาคม

นักบุญโยเซฟมักถูกอ้อนวอนขอให้เราตายดี พระศาสนจักรมักแนะนำว่า “ทุกคนควรไปหาโยเซฟเมื่อประสบความยากลำบากต่างๆ”

ความยิ่งใหญ่ในด้านฝ่ายจิตและความยิ่งใหญ่ในความเชื่อของนักบุญโยเซฟนั้น อยู่ที่การรับฟังพระวาจาอันทรงชีวิตของพระเจ้า ท่านน้อมรับฟังพระวาจาเหล่านั้นในความเงียบ และกลายเป็นพยานยืนยันแรกถึงธรรมล้ำลึกของพระเจ้า

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)

ข้อคิดข้อรำพึง สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดข้อรำพึง สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ปี C

การภาวนาจะนำพาท่านไป...

มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อว่า “หน้ากาก” (Mask) สร้างจากเรื่องจริงของเด็กชายคนหนึ่งวัย 16 ขวบที่ชื่อว่า ร็อคกี้ เดนนิส เขาเป็นโรคที่พบได้ยากชนิดหนึ่งที่เกี่ยวกับหัวกะโหลกและกระดูกบริเวณหน้าเติบโตผิดปกติ ทำให้บริเวณหน้าและศีรษะใหญ่บิดเบี้ยวกว่าที่ควรเป็นมาก

คนอื่นๆ อาจรังเกียจ หรือบางคนหัวเราะเยาะเขา แต่เขาเองไม่เคยทำตัวน่าสงสาร ไม่เคยโกรธ เขารู้สึกไม่ดีกับภาพปรากฏของเขาเองก็จริง แต่ก็ยอมรับมันได้ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

วันหนึ่งร็อคกี้และเพื่อนบางคนไปเที่ยวที่สวนสนุก พวกเขาเข้าไปใน “บ้านที่มีแต่กระจก” ที่นั่น พวกเขาหัวเราะกับใบหน้าและร่างกายที่บิดเบี้ยวผิดสัดผิดส่วน ทันใดนั้น ร็อคกี้เห็นตัวเองในกระจกบานหนึ่งซึ่งทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว เพราะกระจกบานนั้นเปลี่ยนใบหน้าเขาให้กลับมาดูเหมือนปกติธรรมดา แถมยังเห็นแววหล่อของตัวเองอีกด้วย

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เพื่อนๆ มองเห็นเขาในรูปลักษณ์ใหม่เอี่ยม พวกเขามองจากภายนอกเข้าไปในสิ่งที่อยู่ภายในของตัวร็อคกี้ว่าเขาเป็นคนที่งดงามจริง ๆ

เปรียบเหมือนกับพระวรสารเรื่องที่พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงพระกายให้สุกใสรุ่งโรจน์ต่อหน้าศิษย์ทั้งสาม ซึ่งทำให้พวกเขาได้เห็นพระองค์ในรูปแบบใหม่ทั้งหมด เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นจากภายนอกว่าตัวตนแท้จริงภายในของพระองค์เป็นเช่นไร นั่นคือ ได้เห็นสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้าว่าทรงเป็นพระบุตรที่งดงามของพระเจ้า

คำถามว่า ทำไมนำพระวรสารตอนนี้ที่พูดถึงความรุ่งโรจน์มาไว้ในเทศกาลมหาพรต เพราะดูเหมือนไม่ค่อยเข้ากัน คำตอบคือเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่พระเยซูเจ้าได้ทรงบอกบรรดาสานุศิษย์ว่าพระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม และจะถูกประหารชีวิต

บางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะบันดาลใจให้อัครสาวกทั้งสามที่ได้เห็น มีพลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าตระหนกอกสั่นในเวลาต่อมา ก็เป็นได้

พระศาสนจักรก็นำพระวรสารตอนนี้มาไว้กลางเทศกาลมหาพรต เพื่อให้พวกเราทุกคนค้นพบพลังทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ที่จะก้าวเดินไปกับพระเยซูเจ้า โดยไม่หวั่นต่อความยากลำบาก และการทรมานจนถึงแก่ความตาย

แต่ยังมีความหมายซ่อนอยู่อีก โดยจะเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพระกายอย่างรุ่งโรจน์กับการทนทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าในสวนเกทเสมนี ซึ่งมีอัครสาวกสามคนเดิมอยู่กับพระเยซูเจ้าด้วย

เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงพระกายเกิดบนภูเขาทาบอร์ ส่วนที่พระองค์ทรงเข้าตรีทูตเกิดบนภูเขามะกอกเทศ ทั้งสองเหตุการณ์เกิดตอนกลางคืน อัครสาวกทั้งสามง่วงนอนอยู่เหมือนกัน มีแต่พระเยซูเจ้าเท่านั้นที่ทรงตื่นอยู่ ที่สำคัญพระองค์ทรงภาวนาอยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้ แต่อยากจะบอกว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน

คือในการเปลี่ยนแปลงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ พวกสาวกได้เห็นพระเยซูเจ้าในห้วงแห่งความปลื้ม ปิติ ความเป็นพระของพระองค์ฉายทาบพระองค์ในแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ส่วนในการเข้าตรีทูตที่สวนเกทเสมนีนั้นตรงกันข้าม พวกเขาเห็นพระเยซูเจ้าในแบบที่ทนทุกข์ทรมาน ความเป็นมนุษย์ของพระองค์ฉายทาบลงบนพระองค์แบบไม่เคยปรากฏมาก่อน

แต่ทั้งสองเหตุการณ์นี้ที่แสดงความเป็นพระเยซูเจ้าทั้งครบ คือทรงเป็นทั้งพระ และเป็นมนุษย์นั้น ทรงเผชิญเหตุการณ์ทั้งสองนี้ ด้วยการภาวนาต่อพระบิดา

การภาวนาอย่างซื่อสัตย์ สม่ำเสมอ ทุกๆ สถานการณ์ของชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะตกต่ำหรือได้รับการยกขึ้น จะพาเราไปสู่หนทางแห่งชัยชนะ ผ่านทางแห่งกางเขนไปอาบสิริรุ่งโรจน์ของพระ

(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2010

ถอดความจาก Mark Link, SJ)

ข้อคิดข้อรำพึง สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ปี C

“พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์น ขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา”

“ฉันกำลังจะเดินทางครั้งสุดท้ายแล้ว”

นี่เป็นเสียงของสุภาพสตรีอาวุโสผู้หนึ่งที่กล่าวกับพระสงฆ์ที่ไปเยี่ยมและโปรดศีลเจิมให้กับเธอ ในขณะนั้นห้อมล้อมไปด้วยลูกๆ หลานๆ ของเธอ เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่กระดูก แต่เธอก็สู้เก็บความเจ็บปวดนั้นไว้อย่างเงียบกริบและอดทน อีกไม่นานเธอก็จากโลกนี้ไป พระสงฆ์องค์ที่ไปเยี่ยมและอภิบาลเธอในช่วงเวลาเจ็บป่วยนั้นจดจำเธอได้เป็นอย่างดี เพราะเธอพาลูกๆ หลานๆ ไปมิสซาทุกๆ วันตลอดเวลา 20 ปีที่รู้จักเธอ ลูกๆ หลานๆ เธอก็ยังมาช่วยวัด บางคนก็มาช่วยขับร้อง

สำหรับผู้ที่มีความเชื่ออย่างลึกซึ้งเช่นสตรีผู้นี้ อาจจะกล่าวได้เหมือนที่นักบุญเปาโลได้เขียนไว้ในบทอ่านที่สองของอาทิตย์นี้ว่า “พี่น้อง บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ในสวรรค์ เราเฝ้าคอยพระผู้ไถ่จากแดนนี้ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์”

ในพระวรสารได้เล่าเรื่องพระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ดังนี้ “ขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ลักษณะของพระพักตร์เปลี่ยนไปและฉลองพระองค์มีสีขาวเจิดจ้า ทันใดนั้น บุรุษสองคนคือโมเสสและประกาศกเอลียาห์มาสนทนากับพระองค์”

บางที เราอาจจะสงสัยว่า ทำไมนำเอาเรื่องพระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์มาไว้ให้เรารำพึงในเทศกาลมหาพรตนี้ น่าจะเป็นเรื่องการทนทุกข์ทรมานและการถูกตรึงกางเขนของพระองค์มากกว่า อันที่จริง พระศาสนจักรต้องการให้เราเข้าใจธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับชีวิตของพระคริสต์ให้ครบถ้วนกระบวนความ เพราะเป็นชีวิตของเราทุกๆ คนด้วย นั่นคือเหตุการณ์แห่งพระสิริรุ่งโรจน์ที่สาวกทั้งสามได้เห็น จะกลายมาเป็นพลังใจอันยิ่งใหญ่ ที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าตระหนกอกสั่นในเวลาต่อมา พระศาสนจักรจึงนำพระวรสารตอนนี้มาไว้กลางเทศกาลมหาพรตเพื่อให้พวกเราทุกคนค้นพบพลังทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ที่จะก้าวเดินไปกับพระเยซูเจ้า โดยไม่หวั่นความยากลำบาก และการทรมานจนถึงแก่ความตาย

มีบุคคลถึง 6 บุคคลในพระวรสารตอนนี้ ประกอบไปด้วยอัครสาวก 3 คน คือ เปโตร ยากอบ และยอห์น ซึ่งเห็นเหตุการณ์อันน่าพิศวงนี้ และเป็นพวกเขาทั้งสามคนที่จะเป็นพยานเห็นเหตุการณ์ที่สวนเกธเสมนี ตอนที่พระเยซูเจ้าเป็นทุกข์ที่สุดและทรงถูกจับกุม

อีกสามบุคคลที่อยู่ในภาพแห่งความรุ่งโรจน์ คือ โมเสส เอลียาห์ และพระเยซูเจ้า พวกท่านกำลังสนทนาถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นและสำเร็จไปในกรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเจ้า ซึ่งเปรียบได้กับเหตุการณ์ในอดีต ที่โมเสสได้พาประชากรอิสราเอลผ่านจากการเป็นทาสในอียิปต์สู่ความเป็นไท พระเยซูเจ้าก็จะทรงกระทำกิจการ “ปัสกา” แบบเดียวกันนี้ แต่สมบูรณ์กว่า ครบถ้วนกว่า เพราะที่นี่มีคำรับรองจากสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้คือบุตรของเรา ผู้ที่เราได้เลือกสรร จงฟังท่านเถิด”

ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าทรงเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงพระกายที่เกิดบนภูเขาทาบอร์ หรือเหตุการณ์แห่งความทุกข์ที่พระองค์ทรงเข้าตรีทูตที่สวนเกธเสมนี ภูเขามะกอกเทศ เราจะเห็นว่าพระองค์ทรงเผชิญเหตุการณ์ทั้งสองนี้ ด้วยการภาวนาต่อพระบิดา

การภาวนาอย่างซื่อสัตย์ สม่ำเสมอ ทุกๆ สถานการณ์ของชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะตกต่ำหรือได้รับการยกขึ้น จะพาเราไปสู่หนทางแห่งชัยชนะ ผ่านทางแห่งกางเขนไปอาบสิริรุ่งโรจน์ของพระ

(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013

ถอดความจาก Francis Gonsalves, S.J., Sunday Seeds For Daily Deeds, pp.311-312 ; Mark Link, S.J., Illustrated Sunday Homilies –Year C –pp.49-52)

ประกาศสังฆมณฑลเชียงใหม่ที่ ชม. 062/2025

ที่ ชม. 062/2025

เรื่อง ผลการเลือกตั้งผู้รักษาการสังฆมณฑล (The Diocesan Administrator)
โดยคณะที่ปรึกษาพระสังฆราช
.
ได้แก่ บาทหลวง อีจีนุส บุญเลิศ สร้างกุศลในพสุธา
.
เป็น ผู้รักษาการสังฆมณฑลเชียงใหม่
.
ประกาศ ณ วันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2025
.
(บาทหลวง ยอแซฟ ไวยากรณ์ สุขสวัสดิ์)
ประธานการประชุมคณะที่ปรึกษาพระสังฆราช เพื่อการเลือกตั้งผู้รักษาการสังฆมณฑลเชียงใหม่

มาเสกวัดพระเมตตา บ้านแม่ปุ๋น

มาเสกวัดพระเมตตา บ้านแม่ปุ๋น

27-28 กุมภาพันธ์ 2025

เช้าวันนี้ พ่อร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนพระหฤทัย เชียงใหม่ ภาคเช้า กับซิสเตอร์ วรรณวิมล สุขสวัสดิ์ พระสงฆ์ คณะครู นักเรียน ผู้ร่วมงาน และสมาคมผู้ปกครอง-ครู
.
บ่ายโมงครึ่งเดินทางไปเยี่ยมคุณพ่อชูพงษ์ ดูความก้าวหน้าการปรับปรุงวัดนักบุญยอห์น แม่เหาะ เวลาประมาณ 4 โมง
.
จากนั้นไปสบเมย ประมาณ 5 โมงครึ่ง เยี่ยมคุณพ่อคำมา และคุณพ่อโจอี้ ดูการก่อสร้างวัดนักบุญอันตน ก้าวหน้าไป 60% คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2025 นี้
เดินทางต่อประมาณ 30 นาที ถึงวัดนักบุญเปาโล แม่สะเรียง เวลา หกโมงกว่า พบคณะซิสเตอร์มารีอาบัมบีนา 4 คน จากแม่ฮ่องสอน มาแสดงความยินดี และอำลา พ่อดีใจที่มีบ้านซิสเตอร์ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ช่วยงานอภิบาล ธรรมทูต และช่วยพี่น้องชาวเมียนมาที่นั่นได้ดีมาก
.
พ่อรับประทานอาหารเย็นกับพ่อชาญชัย ศรีสุทธิจรรยา
– วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 8:15 น คุณสิริ ขับรถพาพ่อไปวัดพระเมตตา บ้านแม่ปุ๋น เขตวัดแม่สะเรียง เวลา 9:40 น. คุณพ่อบุญเลิศ สร้างกุศลในพสุธา เจ้าอาวาส พระสงฆ์ในเขต ซิสเตอร์แม่ปอน 2 ซิสเตอร์อูร์สุลิน 2 และชาวบ้าน ประมาณ 200 คน ร่วมเปิดเสกวัดสาขานี้
.
ชาวบ้านดีใจที่มีวัด เป็นบ้านแห่งการภาวนา แต่เราทุกคนก็เป็นพระวิหารของพระจิตเช่นเดียวกัน

(ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์)

ฉลองนักบุญยอห์น บอสโก ดอยสะเก็ด

ฉลองนักบุญยอห์น บอสโก ดอยสะเก็ด

อาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025

คุณพ่อปิยะ พืชจันทร์ ได้ติดต่อเชิญพ่อไปฉลองนักบุญยอห์น บอสโก (ปกติ ฉลอง 31 มกราคม ) ที่วัดแม่พระองค์อุปถัมภ์ ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
.
คุณพ่อสมชัย กิจนิชี และบราเดอร์ ไพฑูรย์ ช่วยรับผิดชอบที่บ้านนี้ ยังมีบราเดอร์สารพัน แคเชอ รับผิดชอบศูนย์คำสอน แม่ริม ก็มาร่วมฉลองด้วย
.
เยาวสตรีจากบ้านหทัยนิรมล คณะผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์
เยาวชนสตรี จากบ้านเบธานี โรงเรียนเรยีนา เด็กๆบ้านพรสวรรค์ คณะรักกางเขนท่าแร่ บรรดาศิษย์เก่าบ้านดอนบอสโก
.
10:00 น. พิธีมิสซา
เยาวชน 13 คน รับศีลกำลัง
เยาวชน 4 คน รับศีลมหาสนิทครั้งแรก
หลังมิสซา มีรับประทานอาหาร และแข่งกีฬา
.
คุณพ่อและสมาชิกซาเลเซียน ต้องรีบไปร่วมฟื้นฟูจิตใจที่หัวหิน โดยสลับการดูแลเด็กๆ
.
นับเป็นพระพรของเรา ที่มีนักบวชหญิง ชาย มาร่วมพันธกิจ แก่เด็กๆ และเยาวชนของเรา ให้มีโอกาสรับการศึกษาอบรม แบบซาเลเซียน คือ “มีเหตุผล ยึดหลักศาสนา และใจดี”

(ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์)

ฉลองวัดนักบุญไมเกิล การีกอยส์ เชียงดาว

ฉลองวัดนักบุญไมเกิล การีกอยส์ เชียงดาว

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2025

ตามปกติเราฉลองนักบุญไมเกิล การีกอยส์ ชาวฝรั่งเศส ผู้ตั้งคณะพระหทัย ณ เบธาราม วันที่ 14 พฤษภาคม แต่คุณพ่อสิริชัย บุหงาสวรรค์ เจ้าอาวาส ได้ปรึกษากับสภาภิบาลวัด มาเซอร์ผู้บริหารโรงเรียนศีลรวี และเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ จัดฉลองวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พิธีศีลกำลัง แก่นักเรียน และผู้ใหญ่ 26 คน และ 25 ปีแก่คู่แต่งงาน 5 คู่ ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
.
มีพระสงฆ์ ซิสเตอร์ ชาวบ้าน เยาวชน สัตบุรุษ เขต 3 อาสนวิหาร วัดแม่พระแห่งลูร์ด ลำปาง และวัดนักบุญเปโตร สามพราน มาร่วมฉลองวัด แสวงบุญ และเยี่ยมเยียนกัน
.
9:30 น. เริ่มแห่ จากศาลา(ใหม่) ของโรงเรียนศีลรวี มีนักเรียนและครูมาร่วมฉลองวัด ช่วยบริการสัตบุรุษ
10:00 น. พิธีมิสซา
– หลังเทศน์มีพิธีศีลกำลัง
12:00 น. รับประทานอาหาร บริเวณหลังวัด มีการแสดงจาก เยาวชนของโรงเรียน และหมู่บ้านต่างๆ 16 รายการ
14:00 น. มีแข่งฟุตบอล และวอลเลย์บอลหญิง
.
นักบุญไมเกิล การีกอยส์ อายุ 66 ปี ประมาณ 200 ปีมาแล้ว มาจากครอบครัวยากจน ปรารถนาเป็นพระสงฆ์ ยายช่วยติดต่อให้เข้าบ้านเณร ได้ศีลบวชเป็นพระสงฆ์ สอนยืนยันความเชื่อ ยืนยันว่าพระเจ้าให้เสรีภาพและพระหรรษทานแก่เรา ขอเราตัดสินใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อปีศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นปีแห่งพระพร
.
พ่อดีใจที่มีโอกาสมาร่วมฉลองวัดวันนี้ แม้พ่อจะต้องไปรับหน้าที่ที่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พระสงฆ์ ซิสเตอร์ สภาภิบาล และครูคำสอน ก็ยังสานต่องานของพระเจ้าต่อไป
.
ดีใจที่พบกันวันนี้ครับ

(ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์)