
ข้อคิดข้อรำพึง อาทิตย์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา ปี A
คนงานมีน้อย
เมื่อนักบวชไปทำงานแพร่ธรรม ไปสอน และไปเทศน์ พวกเขาจะต้องเขียนบันทึกรายงานส่งกลับไปยังมหาธิการของคณะนักบวช โดยเนื้อหาของรายงานนี้ไม่ใช่รายงานเฉพาะความก้าวหน้าของงาน แต่ต้องรายงานชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาด้วย
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการรายงานที่เขียนไว้กว่า 400 ปีแล้วโดยนักบุญฟรังซิส เซเวียร์ ในประเทศอินเดีย ส่งไปถึงนักบุญอิกญาซีโอ แห่งโลโยลา ในยุโรป หลังจากรายงานสภาพความยากจนอย่างยิ่งของประชาชนที่นั่นแล้ว นักบุญฟรังซิสได้เขียนต่อว่า :
“คนจำนวนมากที่นี่ไม่สามารถเข้ามาเป็นคริสตชนได้ เพียงเพราะว่าไม่มีใครมาช่วยเตรียมพวกเขา มาสอนคำสอนให้พวกเขา บ่อยครั้งที่ผมคิดจะไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในยุโรป โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ที่กรุงปารีส จะไปร้องตะโกนอย่างคนเสียสติ ไปพูดกับพวกนักศึกษาที่สนใจแต่การศึกษามากกว่าการมีน้ำใจดี…… จะบอกกับพวกเขาดังนี้ว่า ถ้าเพียงแต่ในขณะที่พวกเขากำลังศึกษามนุษยวิทยา พวกเขาควรเรียนรู้วิชาการบัญชีด้วยว่าพระเจ้าจะทรงขอสำหรับความสามารถพิเศษต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงมอบให้พวกเขา ถ้าตระหนักได้เช่นนี้ หลายคนอาจจะเคลื่อนไหว….” แล้วร้องว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์อยู่นี่ พระองค์จะทรงใช้ให้ข้าพระองค์ทำอะไร” (นำมาจาก the Jesuit Supplement to the Divine Office, pp. 98-99)
จดหมายฉบับนี้เป็นเสียงสะท้อนพระวาจาของพระเยซูเจ้าในบทพระวรสารของวันนี้ “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด” (มธ 9 : 37–38)
และอะไรที่เป็นจริงในสมัยของพระเยซูเจ้า รวมทั้งอะไรที่เป็นจริงตั้งแต่สมัยของนักบุญฟรังซิส ก็เป็นจริงถึงสองเท่าในทุกวันนี้ด้วย
เมื่อเราพิจารณาคำตรัสของพระเยซูเจ้าที่ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก” เราคิดถึงอะไร เราคิดถึงผู้คนจำนวนมากที่กำลังแสวงหาความจริง และความหมายของชีวิต ซึ่งไม่เพียงผู้คนที่อยู่ในประเทศที่มีบรรดามิชชันนารีไปทำงานอยู่เท่านั้น แต่ในทุกประเทศทั่วโลกของเรานี้ เช่นมีคนที่แสดงความคิดเห็นลงในหนังสือนิตยสารฉบับหนึ่งว่า “ชีวิตของคนเรานี้ น่าจะมีอะไรที่มากกว่า เงินทอง การดู TV งานปาร์ตี้ และการทำตัวเองให้สูงขึ้น”
ส่วนคำตรัสที่ว่า “แต่คนงานมีน้อย” หมายถึงอะไร แน่นอน เราล้วนทราบดีว่า กระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์ นักบวช ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ในที่สุดแล้ว เราทุกคนควรตระหนักว่า เราทุกคนด้วยที่จะสามารถทำบางสิ่งบางอย่างในการเก็บเกี่ยวพืชผลได้ ให้เราพิจารณาเหตุผลต่างๆ ดังนี้
1) อาจเป็นเพราะว่า เราไม่ได้กำลังทำสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ตรัสกับเรา ที่ว่า “จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด” พระเยซูเจ้าได้ทรงมอบไว้ในมือของเราแล้วถึงสิ่งที่จำเป็นในการเก็บเกี่ยวข้าว แต่เรากลับไม่ใช้ทรัพยากรพื้นฐานที่สำคัญมากที่สุด นั่นคือ การภาวนา จำได้หรือไม่ว่าครั้งสุดท้ายที่เราสวดขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวนั้น นานเท่าไรแล้ว
2) ทำไมเดี๋ยวนี้มี “คนงาน” น้อยกว่าสมัยก่อน ที่จะมาเก็บเกี่ยวข้าว เหตุผลนี้ต้องย้อนกลับไปดูที่ “ครอบครัว” กล่าวคือ ครอบครัวปัจจุบันไม่ได้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์กระแสเรียกของการเป็นพระสงฆ์และนักบวชอีกต่อไปแล้ว ให้เราจำกัดวงลงมาสำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ครั้งสุดท้ายที่เราพูดกับลูกของเราเกี่ยวกับศาสนบริกรว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของชีวิตสำหรับพวกเขา นานเท่าไรแล้ว
3) ประการสุดท้ายนี้เกี่ยวข้องกับเราทุกคนโดยเฉพาะ ให้เราลองคิดดูตามแนวทางนี้
– ถ้าเราเป็นคนหนุ่มสาว เราเคยเปิดตัวเราถึงความเป็นไปได้ที่จะอุทิศชีวิตรับใช้พระเจ้าในฐานะพระสงฆ์ และนักบวชไหม หรือเราจะเป็นแบบที่นักบุญฟรังซิสได้กล่าวไว้ “ถ้าเพียงแต่พวกเขาในขณะที่ศึกษาวิชาการต่างๆ ของมนุษย์ ได้ศึกษาด้วยว่าพระเจ้าจะทรงคิดบัญชีสำหรับความสามารถพิเศษต่างๆ ที่ทรงมอบให้พวกเขากลับคืนมาจะเป็นเช่นไร”
– หรือว่าถ้าเราเป็นคนอายุมากแล้ว เราเคยถามตัวเราเองอย่างจริงจังหรือไม่ว่า อะไรที่เราอาจทำได้ในการเก็บเกี่ยวข้าว ตัวอย่างเช่น ด้วยคำภาวนา การช่วยเหลือด้านการเงิน หรือการเข้าไปช่วยด้วยตนเอง
สรุปว่า เราทุกคนได้รับการเรียกจากพระเยซูเจ้า เหมือนที่พระองค์ทรงเรียกศิษย์สิบสองคน และทรงมอบงานให้พวกเขาทำ พวกเขาเป็นคนงานในทุ่งนาของพระองค์เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์ ซึ่งมีจำนวนมากมาย เราเองต่างก็มีส่วนในงานนั้น ถ้าเราร่วมใจกับคนละไม้คนละมือ ชื่อของพวกเราก็จะเป็นชื่อต่อๆ ไปจากชื่อของพวกศิษย์ทั้งสิบสองของพระองค์ เราต่างก็ได้เป็นคนงานในนาข้าวของพระองค์ด้วย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรับสมัคร นักศึกษาศูนย์คำสอนแม่ริม
- เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เลขานุการของพระสันตะปาปาแถลงข่าวเพื่อชี้แจง
- สมณลิขิต (Apostolic Letter) ของสันตะปาปาฟรานซิส โอกาสครบ 1600 ปีหลังการมรณภาพของนักบุญเจโรม
- วิทยาลัยเบดา
- วันที่ 28 มกราคม
ระลึกถึงนักบุญโทมัส อาไควนัส พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร