Skip to content

ข้อคิดข้อรำพึง อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ปี A

“ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา”

เรื่องที่โทมัสซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาอัครสาวกของพระเยซูเจ้าประกาศว่า ไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าจนกว่าจะได้พิสูจน์พระองค์ด้วยตัวเขาเองนั้น เป็นเรื่องโด่งดังเรื่องหนึ่งในสมัยคริสตชนรุ่นแรกๆ และทำให้ใครๆ พากันขนานนามเขาว่า โทมัส-จอมสงสัย

มีเรื่องเล่าระดับตำนานเกี่ยวกับโทมัส ในหนังสือชื่อ “กิจการของโทมัส” (ซึ่งเป็นหนังสือที่ไม่ได้จัดเข้าในระบบพระคัมภีร์ (apocryphal book) จึงไม่เรียกร้องให้ต้องเชื่อ) เล่าเรื่องของโทมัสไว้ว่าดังนี้ พระเยซูเจ้าทรงขายโทมัสให้เป็นทาสของกษัตริย์แห่งอินเดียทรงพระนามว่ากันดาฟอรัส พระองค์ทรงสั่งให้โทมัสสร้างราชวังให้ โทมัสรับคำสั่งด้วยความยินดี และนำเงินจากพระองค์ที่ทรงให้ไว้สำหรับสร้างไปให้แก่คนยากจนจนหมด เมื่อไรก็ตามที่พระราชาตรัสถามโทมัสถึงเรื่องวังที่สร้าง โทมัสก็ทูลว่าอยู่ในระหว่างการสร้าง วันหนึ่งพระราชาขอให้โทมัสพาพระองค์ไปดูวังที่กำลังสร้าง แต่โทมัสตอบว่า “พระองค์ไม่สามารถทอดพระเนตรเห็นในขณะนี้ ต่อเมื่อทรงจากโลกนี้ไปแล้ว จะทรงสามารถเห็นได้” พระราชาทรงโกรธโทมัสมากและแทบจะเอาชีวิตของโทมัส แต่โทมัสกล้าหาญจะเผชิญหน้ากับพระราชา และอธิบายข้อความเชื่อของคริสตชน ความเชื่อที่จะนำไปสู่ชีวิตนิรันดร ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จ พระราชาทรงเข้ามารับนับถือศาสนาใหม่ โทมัสได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการเป็นคริสตชนไว้ในประเทศอินเดีย และต่อมาก็ได้หลั่งโลหิตของท่านให้กับความเชื่อนี้

ทางเดินของโทมัสสู่การเป็นมรณสักขีมาจากความสงสัย เขาเป็นคนที่เชื่ออะไรยากเสมอ แต่เมื่อได้เชื่อแล้วก็เต็มที่และตลอดไปจนยอมสละชีพเลยทีเดียว เราจึงน่าศึกษาชีวิตของโทมัสในมุมมองต่างๆ

1) โทมัสผู้น่าสงสาร เขาติดตามพระเยซูเจ้าเกือบ 3 ปี พร้อมกับบรรดาศิษย์อื่นๆ เขาตั้งความหวังไว้ในพระองค์อย่างเต็มที่ว่ามาจากพระเจ้า แต่วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเหมือนโลกแตกสลายไปต่อหน้า เขาหมดแล้วทุกสิ่ง สำหรับเขาไม่เหลือแม้แต่ความฝันหรือความหวัง เขาไปฝังตัวเงียบๆ อยู่คนเดียว ในขณะที่บรรดาศิษย์อื่นๆ มาชุมนุมกันเพราะกลัวพวกยิว พระเยซูเจ้าทรงปรากฏพระองค์ในค่ำวันต้นของสัปดาห์ให้ทุกคนได้เห็น ยกเว้นโทมัสซึ่งไปอยู่ไหนไม่รู้ ทำให้เขาพลาดการประจักษ์มาของพระเยซูเจ้า และต้องรอไปอีกถึงแปดวัน

2) โทมัสผู้สงสัย โดยนิสัยแล้วโทมัสเป็นคนขี้สงสัย ดังนั้น เมื่อได้ยินศิษย์อื่นๆ พูดเรื่องพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพและเสด็จมาหาบรรดาศิษย์ เขาไม่เชื่อทันที ถ้าเขาไม่ได้เห็นและพิสูจน์ด้วยตัวเองก็จะไม่เชื่อเด็ดขาด แปดวันต่อมาพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มาอีก และทรงท้าให้โทมัสพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง แม้ข้อเรียกร้องของโทมัสที่จะขอพิสูจน์นั้น ดิบ เถื่อน และไร้ความปรานี แต่พระเยซูเจ้าทรงตอบสนองเขาด้วยความใจดีและเอาใจใส่ แสดงว่าพระองค์ทรงตอบสนองทุกๆ คนตามความจำเป็นของคนเหล่านั้น

3) โทมัสกับความเชื่อของเขา แม้จะเป็นคนเชื่อยากและขี้สงสัย แต่พระวาจาที่พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาทำให้ความสงสัยของเขามลายหายไปสิ้น ดูเหมือนเขาไม่ได้เข้าไปพิสูจน์ แต่ประกาศข้อความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ออกมาว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเรียกพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า” มาก่อน นับเป็นความเชื่อขั้นก้าวกระโดดของโทมัส เมื่อเขาตระหนักว่าเป็นพระเยซูเจ้าจริงๆ ซึ่งได้กลับคืนชีพจากความตาย ทำให้เขาเห็นนัยของการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าที่หมายถึง คือ พระองค์มิได้ทรงเป็นเพียงมนุษย์ เพราะมนุษย์ไม่ได้ลุกขึ้นมาจากความตาย พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้านั่นเอง

“ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” ข้อความนี้ พระเยซูเจ้าตรัสกับโทมัสก็จริง แต่หมายถึงเราทุกคนด้วย

คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2011
Based on : John ‘s Sunday Homilies, Cycle – A ; by John Rose)