
ข้อคิดข้อรำพึง อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี A
“จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
เด็กน้อยสองคนชื่อ แมรี่ และจอห์นนี่ ได้ไปเยี่ยมและพักอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่ฟาร์มของท่านในช่วงวันหยุด คุณปู่ได้ให้หนังสติ๊กแก่จอห์นนี่ให้ไปเล่นในป่า ปรากฏว่าเขายิงอะไรก็ไม่ถูกเป้าเลย ด้วยความผิดหวังจึงเดินกลับบ้านคุณปู่เพื่อกินขนมในตอนบ่าย ในขณะที่ใกล้จะถึงบ้าน เขาเห็นเป็ดที่คุณย่าเลี้ยงไว้เลยลองคว้าหนังสติ๊กมายิงดู ปรากฏว่าถูกหัวมันพอดี และมันก็ตายไปต่อหน้าต่อตา เขาตกใจและเสียใจ จึงจับเป็ดนั้นฝังลงไปในโคลน ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์นี้นอกจากแมรี่พี่สาวของเขา โดยเขาบอกให้เก็บเป็นความลับ
วันรุ่งขึ้น หลังอาหารเที่ยงคุณย่าเรียกแมรี่มาช่วยล้างถ้วยชาม แต่เธอพูดว่า “คุณย่า จอห์นนี่พูดว่าอยากช่วยทำงานในครัว” แล้วเธอก็หันมากระซิบกับน้องว่า “จงจำเรื่องเป็ดไว้ให้ดี” จอห์นนี่จึงต้องไปช่วยล้างถ้วยชาม
ในช่วงเย็น คุณปู่ชวนเด็กๆ ไปตกปลา แต่คุณย่าบอกว่า “เสียใจด้วย ฉันอยากให้แมรี่มาช่วยฉันเตรียมอาหารเย็น” แมรี่ยิ้มและรีบพูดว่า “คุณย่า จอห์นนี่บอกหนูว่า เขาจะช่วยคุณย่าเตรียมอาหารเย็น” แล้วเธอก็หันมากระซิบกับจอห์นนี่ว่า “จำเรื่องเป็ดไว้ให้ดี” สรุปแล้ว แมรี่ได้ไปตกปลา แต่จอห์นนี่ต้องอยู่ในครัวช่วยเตรียมอาหาร
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้หลายๆ วัน จอห์นนี่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงไปสารภาพกับคุณย่าว่าเขาได้ฆ่าเป็ด คุณย่าคุกเข่าลงโอบกอดเขาและพูดว่า “ที่รัก ย่ารู้แล้วล่ะว่าหลานฆ่าเป็ด เพราะเวลานั้นย่ายืนอยู่ที่หน้าต่างและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่เพราะย่ารักหลานจึงยินดีให้อภัยหลาน ย่าเพียงแต่แปลกใจว่าหลานจะยอมให้แมรี่ทำให้หลานเป็นทาสนานสักเท่าใด”
คำสารภาพของจอห์นนี่ทำให้เขามีอิสรภาพ เมื่อเราสารภาพบาปของเราต่อพระเจ้า เราไม่ได้บอกความลับอะไรที่คิดว่าพระองค์ไม่ทรงรู้ พระองค์ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง เหมือนทรงมองเห็นเหตุการณ์อยู่ที่หน้าต่าง การไม่ยอมสารภาพของเราทำให้เราเป็นทาส
นักบุญมัทธิวเล่าในพระวรสารวันนี้ถึงเรื่องของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง มาประกาศสอนในถิ่นทุรกันดาร เนื้อหาที่สอนคือ “จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
นักบุญมัทธิว ยังรายงานปรากฏการณ์ในครั้งนั้นอีกว่า “ประชาชนจากกรุงเยรูซาเล็ม จากทั่วแคว้นยูเดีย และจากทั่วเขตแม่น้ำจอร์แดนพากันไปพบท่านยอห์น รับพิธีล้างจากท่านในแม่น้ำจอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน
ยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง ต้องมีเสน่ห์อย่างมาก หรือมีคุณลักษณะพิเศษที่ดึงดูดผู้คนให้พากันมาหาท่านในถิ่นทุรกันดารได้ แต่แท้จริงแล้วเสียงในถิ่นทุรกันดารมีความหมายต่อชาวอิสราเอลมาช้านาน กล่าวได้ว่า ถิ่นทุรกันดารนี้แหละที่ความเชื่อทางศาสนาของอิสราเอลเจริญงอกงามขึ้น ในถิ่นทุรกันดารนี้เองที่ชาวอิสราเอลได้พบกับพระเจ้าเป็นครั้งแรก และเรื่องราวการเดินทางในถิ่นทุรกันดารของประชากรเป็นการเล่าเรื่องความเติบโตของชาติ โดยผ่านจากวิกฤติปัญหาไปสู่การตั้งหลักแหล่งในดินแดนพระสัญญา
ท่านยอห์นจึงเป็นเสียงที่ทรงพลังมากจากถิ่นทุรกันดารร้องเตือนประชาชนทุกสาขาอาชีพให้กลับใจ เพื่อเตรียมรับเสด็จผู้ที่จะมาภายหลังท่าน ทว่าทรงอำนาจยิ่งกว่าท่าน
พี่น้องครับ เราทุกคนต้องกลับใจ ต้องทำทางเดินแห่งจิตใจของเราให้ตรง เพื่อต้อนรับเสด็จพระคริสตเจ้า อย่าลืมคำเตือนของท่านยอห์นที่ว่า “ต้นไม้ต้นใดที่ไม่เกิดผลดีจะถูกโค่นและโยนใส่ไฟ”
ข้อคิดข้อรำพึง อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี A
“จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
วันหนึ่งไปเดินดูของเล่นๆ ก็เห็นผลิตภัณฑ์บรรจุหลอด อ่านดูที่หลอดแล้วจึงรู้ว่าเป็นสบู่เหลว ที่เก๋ไก๋ก็คือชื่อสบู่สะกดคำว่าดังนี้ WASH AWAY YOUR SINS ( = ชำระล้างบาปทั้งหมดของท่าน) ใช้สำหรับชำระล้างร่างกาย มีพลังของการทำความสะอาดในเวลาอาบน้ำ บุคคลที่ควรใช้ก็คือ พวกที่ชอบโกหก พวกขี้โกง และพวกที่ทำผิดต่างๆ พลิกไปด้านหลังบอกเพิ่มว่ามีกลิ่นของกำยาน และมดยอบ และวิธีใช้คือ
1. เตรียมตัวให้พร้อม
2. ก้าวเข้าไปในที่อาบน้ำ
3. ใช้สบู่ลูบไล้ทั่วร่างกาย
4. ร้องเพลงหรือฮัมเพลงแห่งความรอด (Sing for salvation)
5. ล้างออกด้วยน้ำ
6. ออกจากที่อาบน้ำ สะอาดเอี่ยมจากบาป
คนเรานี่ช่างคิดนะครับ คิดเรื่องสบู่ล้างตัวออกมาได้น่าทึ่งขนาดนี้ จึงตัดสินใจซื้อมาหนึ่งหลอด เนื่องจากลดราคาไป 70 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว คิดว่าจะใช้ในช่วงเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์นี่แหละ เพื่อให้สอดคล้องกับที่นักบุญยอห์นทำพิธีล้างที่แม่น้ำจอร์แดน พระวรสารวันนี้เล่าว่า ประชาชนจากกรุงเยรูซาเล็ม จากทั่วแคว้นยูเดีย และจากทั่วเขตแม่น้ำจอร์แดน พากันไปรับพิธีล้างจากท่านยอห์นโดยสารภาพบาปของตน
ท่านยอห์น ไม่ยอมเสียเวลาไปเปล่าๆ ล้างไปด้วยและสอนไปด้วย ตอบปัญหาไปด้วย เช่นท่านสอนว่า “จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” คำสอนของท่านทำให้เราเข้าใจว่า การจะต้อนรับเสด็จพระคริสต์นั้นเราจะต้องกลับใจ ถอนตัวออกมาจากการติดใจในบาปและวัตถุสิ่งของ และการเตรียมตัวนี้ต้องทำโดยทันทีอย่ารีรอ หรือต่อรองกับเวลา ทั้งนี้เพราะท่านยอห์นก็เน้นว่า “บัดนี้ขวานกำลังจ่ออยู่ที่รากของต้นไม้แล้ว ต้นไม้ต้นใด ที่ไม่เกิดผลดีจะถูกโค่นและโยนใส่ไฟ”
ท่านยอห์นเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการเตรียมรับเสด็จพระคริสต์ ท่านดำเนินชีวิตอย่างสมถะ ทำหน้าที่ของท่านด้วยความเข้มแข็ง ท่านเตือนประชาชนให้สำนึกผิด กลับใจ และรับการชำระล้างให้สะอาด เราได้ตั้งใจฟังเสียงร้องของท่านยอห์นหรือเปล่า หรือเรายังปล่อยตัว ปล่อยใจ หลงระเริงอยู่ในความสุข สนุก สบาย ที่โลกนี้หยิบยื่นให้ จนลืมพิจารณาตัวเราเองจากภายใน เราปล่อยตัวปล่อยใจให้มีมลทิน และเมื่อพระคริสต์เสด็จมา เราจะจำพระองค์ได้หรือ รวมทั้งเราต้องประเมินตัวเองว่า ถ้าเราจำพระองค์ได้ แล้วเราเหมาะสมแค่ไหนที่จะต้อนรับพระองค์
(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2007)