บทเทศน์วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2020
พระจิตเจ้าคือผู้ช่วยให้พวกเราตัดสินใจในชีวิตประจำวัน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงภาวนาให้กับผู้ที่ตกงาน หรือผู้ที่ไม่มีงานทำ
ทุกคนต้องได้รับความช่วยเหลืออะไรบางอย่างเวลาตัดสินใจไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่อใหญ่… เมื่อไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่าพระจิตเจ้าจะทรงเป็นผู้ช่วยพวกเรา จะทรงนำพวกเราให้มีการตัดสินใจอย่างถูกต้อง
นี่คือสิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเทศน์เมื่อวันจัทร์ที่ 11 พฤษภาคม ในพิธีบูชาขอบพระคุณ (มิสซาส่วนพระองค์) ณ วัดน้อยภายในสถานพำนักซางตามาร์ธา นครรัฐวาติกัน
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเริ่มต้นพิธีมิสซาโดยเชิญชวนให้พวกเราภาวนาเพื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของไวรัสโคโรนา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องตกงานหรือไม่มีงานทำ
พระสันตะปาปาตรัสว่า “ในระหว่างนี้ หลายคนต้องตกงาน” โดยตั้งข้อสังเกตว่าหลายคน “ไม่ได้รับการว่าจ้างใหม่ หรือทำงานแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”
ในบทเทศน์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงไตร่ตรองถึงพระวรสารของวันนี้โดยนักบุญยอห์น (ยน. 14: 21-26) โดยกล่าวถึง “พระดำรัสคำอำลา” หลังอาหารค่ำคร้งสุดท้าย ซึ่งพระเยซูคริสต์ประทานหลักประกันกับบรรดาศิษย์ของพระองค์ว่าพวกเขาจะไม่ถูกปล่อยให้ต้องอยู่ตามลำพังอย่างแน่นอน
“ผู้ใดที่รักเราจะปฏิบัติตามพระวาจาของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา เราจะเสด็จมายังเขาและสร้างที่พำนักกับเขา ผู้ใดที่ไม่รักเราจะไม่ปฏิบัติตามพระวาจาของเรา พระวาจาที่ท่านได้ยินนั้นไม่ใช่วาจาของเรา แต่เป็นพระวาจาของพระบิดาผู้ส่งเรามา เราบอกสิ่งนี้กับท่านในขณะที่เรายังอยู่กับท่าน พระจิตผู้ทรงส่งเสริมพละกำลัง ผู้ซึ่งพระบิดาจะส่งมาในนามของเราจะสอนและเตือนท่านทุกสิ่งในสิ่งที่เราบอกท่าน”
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเน้นว่าพระเจ้าทรงส่งพระจิตมาเพื่อติดตาม และทำนุบำรุงพวกเราจนตลอดชีวิต โดยตั้งข้อสังเกตว่าพระจิตจะไม่ปล่อยให้พวกเราอยู่ตามลำพัง
พระสันตะปาปาทรงเตือนใจว่าพระจิต “ทรงได้รับพระนามว่า “Paraclete” หมายถึง ผู้เป็นทนายฝ่ายเรา – เพราะว่าพระองค์ทรงทำนุบำรุงพวกเรา พระองค์ทรงติดตามพวกเราไปเพื่อว่าพวกเราจะไม่ทำผิดพลาด” พระสันตะบิดรทรงอธิบายว่า “พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าพวกเราจะได้รับการเสริมกำลังจากพระเจ้า”
“พระจิตเจ้าทรงผลักดันในตัวเรา? พระสันตะปาปาถามพร้อมกับอธิบายว่า “พระองค์ทรงสอนพวกเราเข้าสู่พระธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อ ให้พวกเราเข้าใจพระธรรมล้ำลึก เข้าใจคำสอนของพระเยซูคริสต์ และให้พัฒนาความเชื่อของพวกเราโดยไม่ผิดพลาด”
พระองค์ตรัสเสริมว่าข้อความเชื่อ “จะเจริญขึ้นในความเข้าใจ แต่จะในทิศทางเดียวกันเสมอ”
พระจิตจะสอนพวกเราให้พัฒนาชีวิตขึ้น ให้รู้จักไตร่ตรองแยกแยะ และให้พวกเราจดจำสิ่งต่างๆ
พระองค์ยังตรัสด้วยว่าพระจิตจะทรงทำให้พวกเรารำลึกถึงการไถ่กู้ ระลึกถึงถึงการเดินทางแห่งชีวิต พระองค์จะทรงชี้นำให้พวกเราไตร่ตรองและรู้ว่าพวกเราควรที่จะต้องทำอะไรบ้างในเวลานี้ อะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”
ของขวัญของพระเจ้าที่เป็นพระจิตนี้ สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวว่า “จะช่วยให้พวกเราทำการตัดสินใจทั้งเรื่องเล็ก ทั้งเรื่องใหญ่ในชีวิตประจำวัน”
“พระองค์ทรงสอนพวกเราทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ทรงนำพวกเราเข้าสู่พระธรรมล้ำลึก พระองค์ทรงประทานให้เราจดจำ ไตร่ตรอง และเจริญเติบโต” พระองค์ตรัส
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงสรุปด้วยการอธิษฐาน “ขอให้พระเยซูคริสต์ ช่วยเหลือพวกเราให้รักษาของขวัญนี้ไว้ ซึ่งพวกเราได้รับมาจากศีลล้างบาป”
บทเทศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (ฉบับเต็ม)
ข้อความพระวรสารวันนี้เป็นการกล่าวคำอำลาของพระเยซูคริสต์หลังอาหารค่ำครั้งสุดท้าย (เทียบ ยน. 14:21-26) พระเยซูคริสต์ทรงจบพระกระแสดำรัสด้วยคำกล่าวเช่นนี้ “เราได้กล่าวสิ่งเหล่านี้กับพวกท่านแล้วในขณะที่เรายังอยู่กับพวกท่าน แต่พระจิตผู้ให้คำแนะนำ ซึ่งพระบิดาจะส่งมาในนามของเรา พระจิตจะสอนท่านทุกอย่างและทำให้ท่านจำได้ถึงสิ่งที่เราได้กล่าวไว้กับท่าน” (ข้อ 25-26) นี่เป็นคำสัญญาของพระจิตผู้ทรงประทับอยู่ในเรา ซึ่งพระบิดาและพระบุตรทรงส่งมา ซึ่ง “พระบิดาจะส่งมาในนามของเรา” พระเยซูคริสต์ตรัส เพื่อติดตามพวกเราไปในชีวิต พวกเราขานเรียกพระองค์ว่า “Paraclete” นีคือหน้าที่ของพระจิต ในภาษากรีก “Paraclete” คือผู้ที่ช่วยสนับสนุนผู้อื่น และพระเจ้าทรงให้สัญญากับพวกเราว่าผู้ที่จะให้การสนับสนุนเราคือพระเจ้า ซึ่งได้แก่พระจิต พระจิตเจ้าทรงผลักดัน และดลใจในตัวเรา? พระเยซูคริสต์ตรัสกับเราว่า “พระองค์จะสอนท่านให้จดจำ นี่เป็นงานของพระจิต พระองค์เป็นผู้ที่จะสอนพวกเรา พระองค์สอนพวกเราถึงพระธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อ และให้พวกเราเข้าใจพระธรรมดังกล่าวไดดียิ่งขึ้น พระองค์สอนความเชื่อในพระเยซูคริสต์และสอนพวกเราให้พัฒนาความเชื่อโดยไม่ผิดพลาด เพราะว่าความเชื่อของพวกเราจะพัฒนาขึ้นและจะต้องไปในทิศทางเดียวกันเสมอ พระองค์สอนพวกเราให้เข้าใจพระธรรมล้ำลึกมากกว่าเดิม
และอีกอย่างหนึ่งที่พระเยซูคริสต์ตรัสว่า พระจิตจะทรงกระทำคือความทรงจำ พระองค์ “จะประทานให้ท่านจำทุกสิ่งที่เราบอกท่าน” (ข้อ 26) พระจิตเป็นดุจความทรงจำ พระองค์ปลุกให้พวกเรา จดจำสิ่งนี้ จดจำสิ่งนั้น” พระองค์ทำให้พวกเราตื่นตัวเสมอในเรื่องราวของพระเจ้า และพระองค์ก็ทรงประทานให้พวกเราจดจำชีวิตของพวกเรา “ขอให้คิดถึงชั่วเวลานั้น คิดถึงขณะที่ท่านได้พบกับพระเยซูคริสต์ คิดถึงขณะที่ท่านละทิ้งพระองค์ไป” ครั้งหนึ่งพ่อได้ยินคนหนึ่งภาวนาต่อพระเจ้าดังนี้ “ข้าแต่พระเจ้า ลูกเป็นเหมือนเดิมเฉกเช่นเมื่อลูกเป็นเด็ก ลูกมีความฝันเหล่านี้ แล้วลูกก็เดินหลงทาง บัดนี้พระองค์ทรงเรียกหาลูก” ลูกยังคงเป็นเหมือนเดิม นี่เป็นความจำของพระจิตในชีวิตของลูก พระจิตทรงนำพวกเราไปสู่ความทรงจำแห่งความรอด ความทรงจำถึงสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงสอน และรวมถึงความทรงจำถึงชีวิตของตนเองด้วย นี่สิ่งที่ทำให้พ่อคิด สุภาพบุรุษคนนี้กำลังพูดอะไร ถึงวิธีที่ดีในการสวดภาวนา ของการพิศเพ่งไปที่พระเยซูคริสต์ “ลูกยังคงเหมือนเดิม ลูกเดินทางมาไกลโขแล้ว ลูกทำผิดมากมาย แต่ลูกก็ยังคงเหมือนเดิมและพระองค์ก็ยังคงรักลูก” นี่เป็นความทรงจำถึงวิถีชีวิตของเราและพระจิตก็ทรงชี้นำพวกเราในความทรงจำนี้ พระองค์ชี้นำพวกเราให้รู้จักไตร่ตรอง ไตร่ตรองว่าลูกต้องทำอย่างไรในขณะนี้ หนทางใดคือทางที่ถูกต้อง หนทางใดคือทางที่ผิด แม้ในเรื่องที่เล็กน้อยในการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน พระองค์เป็นผู้ที่ติดตามพวกเราไป พระองค์ทำนุบำรุงพวกเราในการไตร่ตรองแยกแยะ กล่าวคือพระจิตทรงสอนและจะสอนพวกเราในทุกสิ่งซึ่งจะทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็งยิ่งขึ้น พระองค์จะนำเราเข้าสู่พระธรรมล้ำลึก จะทรงคอยเตือนใจพวกเราถึงความเชื่อและชีวิตของเรา เป็นพระจิตที่จะทำหน้าที่สอนพวกเราในเรื่องของความทรงจำ สอนให้พวกเรารู้จักไตร่ตรองในการตัดสินใจ พระวรสารได้มอบสัญญานามพระจิตว่าเป็น “Paraclete” เพราะว่าพระองค์ทรงสนับสนุนพวก เป็นกำลังของเรา ทว่าพระองค์ยังทรงมีพระนามอื่นอีกที่สวยงามกว่า พระองค์เป็นของขวัญของพระเจ้า ความจริงแล้วพระจิตทรงเป็นของขวัญสุดแสนประเสริฐ พวกเราจะไม่ถูกปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพัง เราจะส่งพระจิต (Paraclete) เพื่อสนับสนุนและช่วยท่านให้ก้าวไปข้างหน้า ให้รู้จักไตร่ตรองแยกแยะและให้รู้จักจำ พระจิตเป็นของขวัญของพระเจ้า
ขอพระเจ้าโปรดให้พวกเราเฝ้าระวังของขวัญนี้ที่พระองค์ทรงประทานให้พวกเราและขอให้เราทุกคนมีของบขวัญนี้ภายในชีวิต
ข้าแต่พระเยซูคริสต์ ลูกขอกราบลง ณ แทบพระบาทของพระองค์ ลูกขอมอบการเป็นทุกข์ถึงบาปจากใจจริงของลูก ดวงใจที่มัวแต่สาละวนอยู่กับสิ่งที่ไม่เป็นเรื่องอันไร้สาระต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ ลูกขอกราบนมัสการพระองค์ในศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งความรักของพระองค์ ในขณะที่กำลังรอที่จะรับความสุขแห่งศีลมหาสนิท ลูกปรารถนาที่จะรับพระองค์ทางจิตวิญญาณ ข้าแต่พระเยซูคริสต์ โปรดเสด็จมายังลูกเพื่อลูกจะได้เข้าไปหาพระองค์ ขอให้ความรักของพระองค์จงเผาตัวลูกทั้งในชีวิตและในความตาย ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกไว้ใจในพระองค์ ลูกรักพระองค์ อาแมน
Regina caeli laetare, alleluia.
Quia quem meruisti portare, alleluia.
Resurrexit, sicut dixit, alleluia.
Ora pro nobis Deum, alleluia.
(Christ, whom you bore in your womb, alleluia,
Has risen, as He promised, alleluia.
Pray for us to the Lord, alleluia).
(ราชินีสวรรค์ จงชื่นชมยินดีเถิด อัลเลลูยา
เพราะพระองค์ที่พระแม่อุ้มไว้ในครรภ์ อัลเลลูยา
ได้ทรงกลับเป็นขึ้นมาตามที่ได้ทรงสัญญาไว้ อัลเลลูยา
โปรดภาวนาต่อพระองค์เพื่อลูกด้วยเทอญ อัลเลลูยา)
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทเทศน์นี้มาแบ่งปันและไตร่ตรอง)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- สาส์น “เพื่อวันแห่งพันธกิจประกาศข่าวดีสากล” ค.ศ. 2020 หรือพวกเราเคยเรียก “วันมิสซัง” Message 2020: WORLD MISSION DAY
- สมเด็จพระสันตะปาปาในคืนคริสต์มาส: พระเยซูเจ้าทรงแสดงทางจากความเล็กน้อยไปสู่ความยิ่งใหญ่
- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสมีความคิดที่จะปฏิรูปพระศาสนจักร
- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงรำลึกถึง ครบรอบ 25 ปีของสมณสาส์นเวียน “UT UNUM SINT” (1995-2020)
- สมณลิขิตในรูปแบบพระสมณอัตตาณัติ (Motu Proprio) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส “ANTIQUUM MINISTERIUM”