Skip to content

ที่ศูนย์สังฆมณฑลเชียงใหม่ระหว่างวันที่19-20 กรกฎาคม2561 สังฆมณฑลเชียงใหม่โดยคณะกรรมการบริหารสังฆมณฑลฯได้จัดให้มีการสัมมนานักบวชบาทหลวงผู้นำคริสตชนหน่วยงานองค์กรและผู้น้ำท้องถิ่นเพื่อศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและบทบาทหน้าที่ของคริสตชนในฐานะคนไทยต่อการมีส่วนร่วมส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างไรในบริบทรัฐธรรมนูญ2560

โอกาสนี้ได้รับเกียรติจากคุณพ่อนิพจน์เทียนวิหารผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมศาสนาวัฒนธรรมได้บรรยายให้หัวข้อ“การอ่านและวิเคราะห์เครื่องหมายแห่งกาลเวลาของพระศาสนนจักรในโลกสมัยใหม่”และ.ดร.ยศสันตสมบัติคณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้วิเคราะห์ประวัติศาสตร์การเมืองไทยประชารัฐประชานิยมไทยนิยม”และเจ้าหน้าที่ยส.ได้บรรยายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน 2560 และรู้ทันการเลือกตังโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ได้บรรยายเกี่ยวกับรูปแบบการเลือกตั้ง สิทธิ หน้าที่การมีส่วนร่วมของประชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน 2560

เจ้าหน้าที่ กกต.ได้สรุปว่าประเทศไทยเร้ามีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 85 ปีประชาธิปไตยไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับการเลือกตั้ง 25 ครั้ง รัฐบาล 61 คณะ นายกรัฐมนตรี 29 คน และเกิดการปฏิวัติ 13 ครั้ง ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้เราประชาชนชาวไทยต้องไม่ยอมโอนอ่อนหรือเป็นเครื่องมือให้กับการซื้อเสียง ขายเสียง การเลือกตั้งจะมีคุณภาพหรือไม่อยู่ที่คุณภาพของประชาชนด้วยว่าช่วยกันเลือกคนที่เห็นว่าดีรับใช้และรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมคุณภาพของผู้สมัครเป็นคนดีมีคุณภาพ และคุณภาพของ กกต.ที่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งอย่างสุจริตยุติธรรมมี 3 สาเหตุที่ทำให้ไทยเรามีความไม่โปร่งใส คือ 1. ไม่นำเอาความพอเพียงมาใช้ในชีวิต เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว 2. ไม่ตระหนักผลกระทบการทุจริตมากพอ 3. ขาดจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมและประโยชน์สาธารณะ

โอกานนี้ คุณพ่อนิพจน์ได้ให้ความเห็นว่าหลังสังคยานาวาติกันที่2เป็นต้นมาพระศาสนจักรได้ถือปฏิบัติตามคำสอนของสังคายานาวาติกันที่2 คือให้อ่านเครื่องหมายแห่งกาลเวลาและนำมาไตร่ตรองว่า ในแต่ละสถานการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพระเป็นเจ้าต้องการให้พระศาสนจักรในโลกมีบาทบาทอย่างไรต่อสถานการณ์นั้นๆ

มองย้อนกลับไปจากการที่ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยเราเองได้จัดให้มีแผนพัฒนาฉบับต่างๆโดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเช่นแผนพัฒนาชาติฉบับที่9-10ผลที่ตามมาก่อให้เกิดปัญหาคอร์รับชั่นปัญหาสังคมครอบครัวสภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายอันเกิดจากการขยายพื้นที่การเกษตรความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อมาแผนพัฒนาฉบับที่11ก็ยังเกิดวิกฤตทางสังคม/ครอบครัววิกฤตธรรมชาติสิ่งแวดล้อมวิกฤตความมั่นคงทางอาหารวิกฤตการเมืองเกิดการยึดอำนาจในที่สุดก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองเกิดกลุ่มสีเสื้อต่างๆในที่สุดแผนพัฒนาชาติฉบับที่12ได้ก่อให้เกิดกพรรคการเมืองใหม่กำหนดให้การพัฒนาประเทศแต่ละด้านให้เป็น4.0 ในที่สุดเศรษฐกิจการผลิตแบบพืชเชิงเดี่ยวเข้าสู่ชุมชนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมสังคมผู้สูงอายุปัญหายาเสพติดและทำให้ครอบครัวแตกแยก

ในที่สุดจากสถานการณ์และวิกฤติที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเช่นนี้พระศาสนจักรไทยจึงได้จัดให้มีแผนอภิบาลชุมชนศิษย์พระคริสต์ (2010-2015) และออกกฤษฎีกา(2015) “ศิษย์พระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่”ได้มีการจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมคริสตชนกับการเลือกตั้งรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดและรณรงค์ครอบครัวให้เข้มแข็งเพื่อนำไปสู่การพัฒนามนุษย์ทั้งครบนำมิติความศักดิ์สิทธิ์ด้านจิตวิญญาณมาสู่โลกจักรวาลนำคุณค่าศาสนาวัฒนธรรมมาอยู่ในระบบการเมืองเศรษฐกิจสังคมฯ การศึกษา และคุณพ่อได้สรุปความคาดหวังว่า2020 จะต้องยกระดับการศึกษาฝึกอบรมวิจัยศาสนวัฒนธรรมประชาชนเพื่อนำไปสู่การพัฒนามนุษย์ทั้งครบตามแนวทางพระวรสารคำสอนของพระศาสจักรการเสวนากับวัฒนธรรมต่างๆและศาสนาต่างๆของประชาชนเอเชียโดยเฉพาะคนยากจนเพื่อการประกาศข่าวดีเรื่องอณาจักรพระเจ้าในบริบทของการเปลี่ยนผ่านเราไม่ได้อยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแต่เราต้องเปลี่ยนแปลงยุค”

ศ.ดร.ยศสันตสมบัติได้วิเคราะห์“ประวัติศาสตร์การเมืองไทยประชารัฐประชานิยมไทยนิยม”สรุปได้ว่าจริงๆแล้วความสบสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศของเราที่ผ่านมานั้นเกิดจากการไม่เคารพสิทธิ กฎกติกา บางกลุ่มบางพวกที้ต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ดังนั้นเราต้องกลับมามองว่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสังคมไทยเราและทำความเข้าใจกับคำว่า“วัฒนธรรม”ซึ่งมีทั้งด้านดีและด้านลบที่ถูกกระทำซ้ำฯ จึงเรียกว่าวัฒนธรรม และเมื่อโลกเปลี่ยนวัฒนธรรมก็เปลี่ยนรวมทั้งวัฒนธรรมทางการเมืองด้วย

ดังนั้นเพื่อเราจะได้เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้ก็ด้วยการทำความเข้าใจปัญหาความเป็นมาว่าการเมืองไทยเราเป็นมารยาการแสดงผลประโยชน์ระบบอุปถัมภ์และความเหลื่อมล้ำในที่สุดก็นำไปสู่ปัญหาเกิดความขัดแย้งและถ้ารัฐที่มีอนาจรับใช้นายทุนก็จะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนจนมากขึ้น

คำถามว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อสร้างความเป็นธรรมอย่างแท้จริงแบบคริสตชนจริงๆถ้าเราเชื่อในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เป็นพี่น้องอย่างแท้จริงดังนั้นการเมืองในช่วงต่อไปนี้มีคำสำคัญอย่างไรเช่นกลุ่มไหนพรรคไหนที่เน้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์การให้สิทธิ์แก่ผู้คนให้เท่าเที่ยมกันทำอย่างไรการเมืองไม่ใช่เรื่องปัจเจกแต่เป็นเรื่องของชุมชนที่จะต้องรวมกลุ่มกันยืนหยัดในความถูกต้องไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้กับผู้มีอิทธิพลหรือผลประโยชน์ รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมและความถูกต้อง แม้บางทีดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ให้เราสวดภาวนาด้วยความเชื่อเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อไป

1