Skip to content

ข้อคิดข้อรำพึง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา ปี C

องค์กรป้องกันการกระทำทารุณต่อสัตว์ ซึ่งมีชื่อย่อว่า พีตา = PETA (เป็นคำย่อจากคำเต็มคือ “People for the Ethical Treatment of Animals”) เป็นกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของบรรดาสัตว์ มีฐานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้ได้ออกมาปกป้องเรื่องของ “ปลา” โดยหลักการแล้ว พวกนักกิจกรรมของ “พีตา” รู้สึกว่าบรรดาปลาถูกกระทำอย่างโหดร้าย (เช่น การล่าปลาวาฬ… เช่นการฆ่าฉลามเพื่อมาทำ “ซุปหูฉลาม” ฯลฯ) นาย Karin Robertson ซึ่งเป็นหัวหน้าการรณรงค์เรื่องนี้กล่าวว่า “ปลาเป็นสัตว์ที่น่าสนใจ มีความน่าทึ่งในแต่ละตัว แต่ก็ถูกกระทำร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ” Bruce Friedrich ผู้อำนวยการของ “พีตา” กล่าวว่า “เราควรเอาใจใส่ในเรื่องนี้ให้มากล้น ดีกว่าเอาใจใส่ ไม่เพียงพอ” คำถามคือว่า ไกลแค่ไหนจึงจะเพียงพอ เมื่อพูดถึงเรื่องปลาในพระวรสารของวันนี้ เราควรถามนักบุญเปโตร
.
นักบุญเปโตรกับเพื่อนๆ อัครสาวกกำลังหดหู่ซึมเศร้า พระอาจารย์ของพวกเขา คือพระเยซูเจ้าทรงเคยบอกให้พวกเขาละทิ้งเรือแล้วติดตามพระองค์ไป พวกเขาก็ทำตาม แต่บัดนี้ พระอาจารย์ทรงถูกประหารสิ้นชีพไปในแบบน่าอับอาย ก่อนหน้านี้ พวกเขาหล่อเลี้ยงความหวังว่าจะได้อำนาจ ได้เป็นใหญ่ถ้าได้อยู่กับพระองค์ เพราะก็เห็นพระองค์ทรงทำอัศจรรย์อย่างน่าพิศวง เช่นการทวีขนมปังและปลาเป็นจำนวนมาก แต่ทุกสิ่งกลายเป็นความฝันของอดีต ที่ควรลืมไปจะดีที่สุด และควรฝังให้มันจมลงทะเลไป ดีกว่าจะปลุกความหวังนี้ขึ้นมา และแต่ละคนก็ควรกลับไปทำการประมง คือไปจับปลาตามเดิม
.
แต่พระเยซูเจ้าประทับยืนบนฝั่ง ตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ไม่มีปลาเลยหรือ” พวกเขาตอบว่า “ไม่มีเลย” พระองค์ตรัสว่า “จงเหวี่ยงแหไปทางกราบเรือด้านขวาซิ แล้วจะได้ปลา เมื่อพวกเขาทำตาม ก็แทบจะดึงแหขึ้นไม่ไหว เพราะได้ปลาเป็นจำนวนมาก” นักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสารยังเล่าต่อไปอย่างยอดเยี่ยมว่า “ซีโมน เปโตรลงไปลากแหขึ้นฝั่ง มีปลาตัวใหญ่ติดอยู่เต็มนับได้ 153 ตัว แต่ทั้งๆที่ติดปลามากเช่นนั้น แหก็ไม่ขาด”
.
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการจับปลาอีกครั้งหนึ่งของนักบุญเปโตร บันทึกไว้โดยนักบุญลูกา 5:1-11 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงแรกๆของการประกาศข่าวดี พระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือลำหนึ่งของซีโมน แล้วประทับสั่งสอนประชาชนจากเรือนั้น ตรัสสอนเสร็จแล้ว พระองค์ตรัสกับซีโมน “จงแล่นเรือออกไปที่ลึก และหย่อนอวนจับปลาเถิด” เมื่อเขาทำตามก็จับปลาได้จำนวนมากจนอวนเกือบขาด พวกคริสตชนสมัยแรกๆ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่าเรื่องเล่าทั้งสองดูเหมือนคล้ายกัน แต่เหตุการณ์ในฉากที่เกิดขึ้นหลังการกลับคืนพระชนมชีพแล้ว หมายถึง “การจับปลาแบบใหม่” ที่ซีโมนเปโตรจะนำบรรดาปลาขึ้นมาโดยที่แหหรืออวนจะไม่มีทางขาด
.
เลข “153” เป็นเลขสัญลักษณ์และหมายความถึงชาติต่างๆ ที่มีอยู่ในเวลาขณะนั้น เรื่อง “การจับปลา” ที่เล่าไว้ในนักบุญลูกา จบลงตรงที่พระเยซูเจ้าตรัสกับซีโมนว่า “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไป ท่านจะเป็นชาวประมงหามนุษย์” (ลก 5:10) และก็เป็นจริง บัดนี้ เปโตรจะเริ่มการจับปลาครั้งใหม่ในฐานะของนายชุมพา

ภารกิจนี้จะบังเกิดผลต่อเมื่อฝังรากฐานอย่างลึกซึ้งบน “ความรัก” พระเยซูเจ้าทรงถามเปโตรว่า “ท่านรักเรามากกว่าคนเหล่านี้ไหม” เปโตรไม่ได้เพียงถูกถามว่ารักพระเยซูเจ้าไหม แต่ถามว่า “รักมากกว่าคนอื่นๆไหม” และพระองค์ทรงถามเขาถึง 3 ครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นเพราะพระองค์ทรงสงสัยความรักของเปโตร แต่เพราะพระองค์ทรงต้องการให้เปโตรแทนที่การปฏิเสธพระองค์ 3 ครั้ง ด้วยการประกาศความรักพระองค์ 3 ครั้งนั่นเอง และหลังคำประกาศรักแต่ละครั้ง จะนำไปสู่คำสั่งของพระองค์ว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
.
นักบุญเปโตรได้รับการอภัยจากพระองค์ และมุ่งหน้าทำภารกิจของพระองค์ เราจะพบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบทอ่านแรกจากหนังสือกิจการอัครสาวก หลังจากถูกจับและถูกห้ามสอน นักบุญเปโตรประกาศกร้าวว่า “เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์” และต่อไปนักบุญเปโตรจะต้องทนทุกข์เป็นอันมาก จะถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน และถูกตรึงกางเขนกลับหัวลง ที่กรุงโรมเวลานี้ยังเก็บรักษาคุกและโซ่ที่พันธนาการท่านไว้ เป็นเครื่องหมายของความร้อนรนในการประกาศข่าวดีของท่าน และที่วาติกันเราสามารถไปสวดภาวนาที่หลุมศพของท่าน
.
สัญลักษณ์รูปปลาได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ยุคคริสตชนสมัยแรกๆเลยทีเดียว สื่อถึงความหมายลับๆว่าคนๆนั้นเป็นสมาชิกของพระคริสต์ คำภาษากรีกที่เทียบเท่ากับปลา ก็คือ “IXTUS” ซึ่งแต่ละตัวอักษรเป็นตัวย่อหมายถึง “พระเยซู, พระคริสต์, พระผู้ไถ่, พระบุตรของพระเจ้า” ( = “Jusus, The Christ, Saviour, Son of God”) แม้ในทุกวันนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาก็ยังทรงประทับตราสมณกฤษฎีกา หรือสมณลิขิตของพระองค์ด้วย “แหวนของชาวประมง” ( = “Ring of the Fisherman”)
.
“ท่านรักเราไหม” ก็เป็นคำถามที่พระเยซูเจ้าทรงถามคริสตชนทุกคน การตอบรับว่า “ครับ, ค่ะ” ต่อพระองค์ก็คือการประกาศความรักที่จะผลักดันให้ “นาวาของพระคริสต์” = พระศาสนจักร ขับเคลื่อนไป สามารถฟันฝ่าคลื่นลมพายุได้อย่างเข้มแข็ง จนไปถึงผู้คนทุกชาติทุกภาษา เหมือนองค์กร “PETA” ที่นักกิจกรรมของเขารณรงค์เพื่อสิทธิของบรรดาปลา เราก็จะเข้ามีส่วนอย่างเข้มแข็งในการประกาศเรื่องของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ พร้อมกับนักบุญเปโตร ผู้นำองค์กร PETA ของเรา นั่นคือ “Peter’s Easter Tidings to All!” ( = การประกาศข่าวดีเรื่องปัสกาของนักบุญเปโตรให้กับทุกๆคน)

(แปลความโดย คุณพ่อวิชา หิรัญญการ เมื่อ 3 พฤษภาคม ค.ศ.2019
จากหนังสือ Sunday Seeds for Daily Deeds
เขียนโดย Francis Gonsalves, S.J.)