Skip to content

พระสันตะปาปาฟรานซิสประชุมหารือผ่านทาง “video conference” กับพระอัครอัยกาคีริล (Kirill)

ประมุขออร์ธอด็อกซ์แห่งกรุงมอสโคเพื่อการแสวงหาแนวทางในการป้องกันการรุกรานผู้อื่นด้วยมิติศาสนา

ภาพด้านซ้าย – พระอัครอัยกาคีริล (Kirill) ผู้นำคริสต์นิกายออร์ธอด็อกซ์แห่งรัสเซียและพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขสูงสุดของพระศาสนจักรคาทอลิกในการพบปะหารือ ณ สนามบินนานาชาติโอเซ มาร์ตินี (Jose Martini) ที่กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 12 กัมภาพันธ์ ค.ศ. 2016  ส่วนภาพด้านขวา- จากแถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักพระอัครอัยกาแห่งกรุงมอสโค เมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2022 พระสันตะปาปาฟรานซิสได้มีการประชุมปรึกษาหารือผ่านทาง “video conference”  กับพระอีครอัยกาคีริล เกี่ยวกับวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศยูเครนและประเทศรัสเซียพร้อมกับความหวังที่จะมีวิธีแก้ไขด้วยสันติวิธี

กรุงโรม – วันพุธที่ 16 มีนาคม 2022 พระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสผ่านทาง “video conference” กับพระอัครอัยกาคีริลแห่งออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย ผู้สนับสนุนสงครามของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่งประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครน ในการสนทนากันนั้นผู้นำศาสนาทั้งสองพระองค์เรียกร้องทั้งสองฝ่ายให้แสวงหาการสร้างสันติภาพ

         แถลงการณ์จากนครรัฐวาติกันยืนยันว่าพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงปฏิเสธอย่างแข็งขันเกี่ยวกับการสร้างความชอบธรรมในการรุกรานผู้อื่นว่าเป็น “สงครามศักดิสิทธิ์” โดยกล่าวว่า “สำหรับทุกวันนี้ เราไม่อาจที่จะกล่าวเช่นนี้ได้”

         พระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสว่า “การรับรู้ในจิตสำนึกของคริสตชนถึงความสำคัญแห่งการสร้างสันติภาพมีการพัฒนาขึ้น” เนื่องจากเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ พระอัครอัยกาคีริล เคยตรัสและใช้ภาษาทางศาสนาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการสนับสนุนของท่านในการให้กองกำลังของประเทศรัสเซียรุกรานประเทศยูเครน

         ตามแถลงการณ์ของนครรัฐวาติกันการสนทนามุ่งประเด็นไปที่ “ภาวะสงครามในประเทศยูเครนและบทบาทของบรรดาคริสตชนรวมทั้งผู้อภิบาลของพวกเขาในการทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อให้เกิดสันติสุข”

         พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงกล่าวย้ำกับพระอัครอัยกาคีริลแห่งกรุงมอสโคว่า “เราต่างก็เป็นผู้อภิบาลของประชากรศักดิ์สิทธิ์ ที่พวกเรามีความเชื่อในพระเจ้า ในพระตรีเอกภาพ ในมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า เพราะเหตุนี้พวกเราจึงต้องมีความพยายามเป็นหนึ่งเดียวกันในการช่วยให้เกิดสันติสุขและช่วยผู้ที่เผชิญความทุกข์เดือดร้อน เพื่อหาทางแสวงหาสันติภาพ และเพื่อยุติการฆ่าล้างแค้นกัน”

         พระสันตะปาปาฟรานซิสตรัส “ผู้ที่ต้องจ่ายราคาของสงครามคือประชาชน นั่นเป็นทหารของประเทศรัสเซียและประชาชนของประเทศรัสเซียด้วยที่โดนวัตถุระเบิดและเสียชีวิต” พระสันตะปาปาทรงกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “พระศาสนจักรต้องไม่ใช้ภาษาทางการเมือง แต่ต้องเป็นภาษาของพระเยซูคริสต์เท่านั้น”

         “สงครามย่อมจะไม่มีความชอบธรรม นี่เป็นสัจธรรมเสมอ เพราะผู้ที่จ่ายราคาคือประชากรของพระเจ้า” พระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสอีกว่า “หัวใจของเราไม่มีทางเลือก นอกจากจะร้องไห้ต่อหน้าเด็กๆ สตรีที่ถูกสังหาร และผู้เคราะห์ร้ายของสงครามทุกคน สงครามไม่ใช่ทางแก้ปัญหา พระจิตผู้ทรงทำให้พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันพระเจ้าทรงขอร้องพวกเราในฐานะที่เป็นผู้อภิบาลสูงสุดให้ช่วยเหลือประชากรที่ได้รับความทุกข์จากภัยพิบัติของสงคราม”

         แถลงการณ์ตอนแรกจากพระศาสนจักรนิกายออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้มี “การอภิปรายกันโดยละเอียด” เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศยูเครน      

         ในแถลงกาณ์ระบุว่า “พวกเราได้มีการใส่ใจเป็นพิเศษในมิติความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมปัจจุบัน และมีการปฏิบัติการของพระศาสนจักรออร์ธอด็อกซ์รัสเซียพร้อมกับพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเพื่อต่อสู้กับผลร้ายที่ตามมา ทั้งสองฝ่ายยืนยันถึงความสำคัญเป็นพิเศษของกระบวนการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง โดยแสดงความหวังที่จะตกลงกันได้สำหรับสันติภาพอันชอบธรรม”

         สมณมนตรีฝ่ายการต่างประเทศของออร์ธอด็อกรัสเซีย อาร์ชบิชอปมหานครฮีลารีออน (Metropolitan Hilarion) และนาย ไอ. เอ. นิโคเลฟ (I.A. Nikolaev) เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการคริสตศาสนิกสัมพันธ์แห่งออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย ต่างร่วมมือกับพระอัครอัยกาคีริล ในการประสานงานเพื่อการหารือครั้งนี้ ณ กรุงมอสโค ส่วนที่นครรัฐวาติกัน ผู้ที่เข้าร่วมประชุมหารือพร้อมกับพระสันตะปาปาฟรานซิส คือพระคาร์ดินัลเคิร์ท ค็อค (Kurt Koch) สมณมนตรีแห่งสมณสภาเพื่อการส่งเสริมความเป็นเอกภาพของบรรดาคริสตชน และคุณพ่อจาโรมีร์ ซาดราปา (Jaromir Zadrapa) เป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานของพระคาร์ดินัลค็อค

         การประชุมหารือผ่านทาง “video conference” เมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาระหว่างพระสันตะปาปาฟรานซิสกับพระอัครอัยกาคีริลถือเป็นการเป็นอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองพระองค์สนทนากันแบบต่อหน้า เพราะทั้งสองฝ่ายพบปะกันแล้วครั้งแรก ณ กรุงฮาวานา ประเทศคิวบาในปี ค.ศ. 2016

         เมื่อเหตุการณ์การพบปะกันครั้งแรกระหว่างพระสันตะปาปากับพระอัครอัยกาแห่งออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นเครื่องหมายสำคัญเชิงเจาะลึกในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกกับออร์ธอด็อกซ์ นอกจากนี้ยังเตรียมกำหนดการสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะพบกันอีกในฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้

         การส่งเสริมและสนับสนุนของพระอัครอัยกาคีริน (Kirill) ต่อการรุกรานของประธานาธิบดีปูตินไม่เพียงแต่จะสร้างความตึงเครียดใหม่ให้กับบรรยากาศของคริสตศาสนิกสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ความไม่แน่นอนและกระอีกกระอ่วนใจท่ามกลางบรรดาศาสนิกของพระศาสนจักรออร์ธอดอกซ์รัสเซียทั่วโลกอีกด้วย

         พระอัครอัยกาคีริลแห่งกรุงมอสโก พยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าการรุกรานนั้นเป็นความพยายามที่จะปกป้องลัทธิอนุโลมนิยมทางศีลธรรมและการจริยธรรมที่เสื่อมโทรมของโลกตะวันตกพร้อมกับชี้แจงว่าประเทศยูเครนนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ใน “ดินแดนภายใต้กฎหมาย” แห่งพระศาสนจักรออร์ธอด็อกซ์รัสเซีย จนถึงวันนี้มีวัดนิกายออร์ธอด็อกซ์อย่างน้อย 60 วัด ที่อยู่ในเกินกว่า 12 ประเทศ (รวมทั้งในประเทศไทยด้วย) ที่กำลังหาช่องทางไปเข้าสังกัดกับพระศาสนจักรอื่น ๆ ตั้งแต่เกิดสงคราม

         นับตั้งแต่ที่พระอัครอัยกาคีริล (Kirill) ได้แสดงความปรารถนาที่จะยุติความขัดแย้งกัน พรองค์ก็ไม่ยอมที่จะปฏิเสธการปฏิบัติการของประธาราธิบดีปูติน หรือการกระทำของทหารรัสเซียต่อชาวยูเครน แม้จะมีการขอร้องจากผู้นำศาสนาทั่วโลกก็ตาม

         ต่อมาในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2022 พระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน (Cardinal Pietro Parolin) เลขาธิการแห่งสันตะสำนัก นครรัฐวาติกัน (นายกรัฐมนตรี) ได้ถวายบูชาขอบพระคุณเพื่อสันติภาพ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตรท่ามกลางบรรดาทูตานุทูตที่ประจำอยู่ที่นครรัฐวาติกัน

         ทั้งท่านทูตอเลกซานเดอร์ อาฟเดเยฟ (Aleksander Avdeyev) แห่งประเทศรัสเซีย และท่านทูตอันดริล ยูราซ (Andril Yurash) แห่งประเทศยูเครนต่างเข้าร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณดังกล่าวด้วย พระคาร์ดินัลปาโรลิน กล่าวย้ำถึงพระดำรัสของพระสันตะปาปาฟรานซิสจากบทเทศน์ของพระองค์เมื่อวันที่ 6 มีนาคมต้นเดือนนี้ ความว่า…

         “นี่ไม่ไช่เพียงแค่การปฏิบัติการทางทหารเท่านั้น แต่เป็นภาวะสงคราม” พระคาร์ดินัลกล่าว โดยปฏิเสธอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งจากวาติกันถึงการอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าของประเทศรัสเซียถึงพฤติกรรทางทหารของตนว่าเป็น “ปฏิบัติการทางทหารแบบพิเศษ”

         “ท่านไม่คิดหรือว่าหากพวกเราฟังพระวาจาพระเยซูคริสต์ของชาวเรามากขึ้น อาวุธก็คงจะไม่มีเสียง อันที่จริงแล้ว ณ วันนี้ไม่น่าที่จะมีการสร้วงและผลิตอาวุธด้วยซ้ำไป” ฯพณฯ ปาโรลิน ได้กล่าวย้ำในการเทศน์

         “พวกเรากำลังหันหน้าไปยังพระเจ้าด้วยหัวใจที่แตกสลายสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครน” พระคาร์ดินัลกล่าวและภาวนาว่า “โปรดช่วยแผ่นดินนี้ให้พ้นจากการถูกทำลายและพ้นจากความตายที่กลาดเกลื่อนเช่นนี้ด้วยเถิด”

by Christopher White

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทความที่น่าสนใจมาแบ่งปันและไตร่ตรอง)