ในบทอ่านที่หนึ่งพวกเราได้ฟังเรื่องราวของโยนาห์ในรูปแบบของยุคนั้น  เนื่องจากพวกเราไม่ทราบว่าเกิดโรคระบาดภายในนครนินิเวห์หรือไม่ อย่างไร? “บางทีอาจเป็นโรคระบาดทางศีลธรรม ซึ่งเป็นเหตุให้เมืองกำลังจะถูกทำลาย (เทียบ ยนา. 3¨1-10) แล้วพระเจ้าก็ทรงส่งโยนาห์ให้ไปเทศนา: จงสวดภาวนา ใช้โทษบาป จงสวดภาวนาและจำศีลอดอาหาร (เทียบ ข้อ 7-8) ท่ามกลางโรคระบาดนั้นโยนาห์เกิดความกลัวแล้วหนีไป (เทียบ ยนา. 1: 1-3) แล้วพระเจ้าก็ทรงเรียกเขาเป็นครั้งที่สองเขาจึงตกลงกลับไปทำการเทศนา (เทียบ ยนา. 3: 1-2) วันนี้เราทุกคนที่เป็นพี่น้องกันจากทุกศาสนา พวกเราต่างพากันอธิฐานภาวนา เป็นวันภาวนาสากล การจำศีลอดอาหาร การใช้โทษบาปที่ประกาศโดยคณะกรรมาธิการเพื่อภราดรภาพมนุษย์ เราแต่ละคนอธิษฐาน หมู่คณะชุมชนอธิษฐาน ศาสนิกของศาสนาอธิษฐาน ทุกคนอธิษฐานต่อพระเจ้า ทุกคนร่วมใจกันในภราดรภาพซึ่งทำให้พวกเรามาพร้อมหน้ากันในยามแห่งความทุกข์โศกเศร้าและเผชิญภัยพิบัตินี้

        พวกเราไม่ได้คาดหวังที่เกิดโรคระบาดนี้ ซึ่งโรคร้ายมาโดยที่พวกเรานึกไม่ถึงและขณะนี้เชื้อโรคก็ยังมีอยู่ คนจำนวนมากกำลังเผชิญความตาย คนจำนวนมากกำลังจากโลกนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว และคนจำนวนมากต้องตายไปโดยไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง  บ่อยครั้งความคิดอาจจะเกิดขึ้นได้ว่า “โอ ดีจัง ที่โรคร้ายไม่กระทบต่อฉัน ขอบคุณพระ ฉันไม่เป็นอะไร”  แต่พ่อขอให้คิดถึงคนอื่นบ้าง!  ขอให้คิดถึงภัยพิบัติ และผลพวงทางเศรษฐกิจ ผลพวงของการศึกษา ผลพวงของ… อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้  เพราะฉะนั้นวันนี้บรรดาพี่น้องศาสนิกทุกคนของทุกศาสนาต่างอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้า  อาจมีบางคนที่กล่าวว่า “นี่เป็นลัทธิอนุโลมนิยม (Relativism) ซึ่งกระทำไม่ได้” แต่ทำไมจึงทำไม่ได้ที่จะอธิษฐานต่อพระบิดาของทุกคน?  ต่างคนต่างอธิษฐานอย่างที่ตนทราบตามที่ได้รับมาจากวัฒนธรรมของตนเอง  พวกเราไม่ได้อธิษฐานภาวนาให้พวกเราเป็นศัตรูกัน ให้ลัทธินี้เป็นศัตรูกับลัทธินั้น เปล่าเลย!  พวกเราร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะที่พวกเราเป็นมนุษยชาติ พวกเราเป็นพี่น้องกัน ภาวนาถึงพระเจ้าตามวัฒนธรรมของพวกเรา ตามประเพณีของพวกเรา ตามความเชื่อของพวกเรา ในฐานะที่พวกเราเป็นพี่น้องกันอธิฐานภวนาต่อพระเจ้า นี่มีความสำคัญ การเป็นพี่น้องกัน จำศีลอดอาหารด้วยกัน ขออภัยโทษต่อพระเจ้าเพราะบาปของพวกเรา  เพื่อว่าพระเจ้าจะทรงเผยพระเมตตาต่อพวกเรา เพื่อที่พระเจ้าจะได้ฟังคำภาวนาของพวกเรา ทีจะยุติโรคระบาดนี้ วันนี้เป็นวันแห่งภราดรภาพ พวกเราตั้งใจมุ่งไปที่พระบิดาองค์เดียวกัน และความเป็นพี่น้องกัน – วันแห่งการอธิษฐานภาวนา

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พวกเราพอทราบว่าได้เกิดโรคระบาด พวกเราไม่ทราบว่าโรคระบาดอะไร ชนิดใด จากนั้นไม่นานภัยระบาดมันมาเหมือนน้ำท่วมโดยกะทันหัน บัดนี้พงกเราต่างตื่นขึ้นระวังภัย  แต่ว่ายังมีโรคระบาดอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้ประชาชนต้องตาย  แล้วพวกเราก็ไม่ยอมรับรู้ถึงโรคระบาดอื่นๆ พวกเราหันหน้ามองไปทางทิศทางอื่น พวกเราค่อนข้างที่จะไม่ยอมรับรู้ถึงการเผชิญกับภัยพิบัติชนิดอื่นที่กำลังเกิดขึ้นในโลกของพวกเราในขณะนี้  พ่อขออนุญาตเอ่ยถึงสถิติของทางการเมื่อสี่เดือนแรกของปีนี้ที่ไม่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา แต่เกี่ยวกับเรื่องอื่น ในสี่เดือนแรกของปีนี้มีประชาชนที่ตายไปเพราะความหิวโหยจำนวน 3.7 ล้านคน นี่คือโรคระบาดแห่งความหิวโหย ภายในสี่เดือนคนตายไปเกือบสี่ล้านเพราะโรคความหิว  การอธิษฐานภาวนาวันนี้เพื่อวิงวอนพระเจ้าใหระงับโรคร้ายโควิด19 ต้องทำให้พวกเราคิดถึงโรคระบาดประเภทอื่นๆในโลกด้วย  เพราะปรากฎว่ายังมีอีกหลายโรค โรคของสงคราม  โรคของความหิวโหย โรคแห่งการเอรัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว และโรคอื่นๆอีก   แต่สิ่งที่สำคัญคือวันนี้คณะกรรมาธิการเพื่อภราดรภาพมนุษย์เชื้อเชิญพวกเราให้อธิษฐานภาวนาตามประเพณีของตนเอง และให้ถือเป็นวันจำศีลอดอาหาร ใช้โทษบาป และกระทำเมตตากิจในการช่วยเหลือผู้อื่น   นี่คือสิ่งสำคัญ  พวกเราทราบจากหนังโยนาห์ว่า เมื่อพระเจ้าทรงเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของประชาชนที่กลับใจ พระองค์ทรงระงับสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการที่จะทำ

        ขอพระเจ้าได้โปรดยุติภัยพิบัตินี้ ขอพระองค์ได้โปรดยุติโรคระบาดนี้ ขอพระองค์โปรดเมตตาพวกเราและยุติโรคระบาดที่น่ากลัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคความหิวโหย สงคราม หรือเด็กๆที่ขาดการศึกษา พวกเราวิงวอนทั้งนี้พร้อมเพรียงในฐานะที่พวกเราเป็นพี่น้องกัน ขอพระเจ้าโปรดอวยพรพวกเราและเผยเมตตาเราทุกคนด้วยเทอญ

        สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจบพิธีมิสซาด้วยการอวยพรศีลมหาสนิทพร้อมกับทรงเชื้อเชิญสัตบุรุษให้มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน