Skip to content

สมเด็จพระสันตะปาฟรานซิสทรงภาวนาสำหรับคณะแพทย์ และศาสนบริกร (บรรดาบาดหลวง)

“ขอให้แบบฉบับของผู้เลี้ยงแกะที่ดี ศาสนบริกร (บาดหลวง) และคณะแพทย์ ช่วยพวกเราให้ดูแลประชากรที่ศักดิ์สิทธิ์และซื่อสัตย์ของพระเจ้า”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงถวายมิสซาวันอาทิตย์ที่สี่ในเทศกาลปัสกาซึ่งเป็นวันสมโภชที่ชื่อว่า “วันอาทิตย์ผู้เลี้ยงแกะที่ดี” พระองค์ทรงภาวนาเป็นพิเศษสำหรับคณะแพทย์ และบรรดาศาสนบริกร (บาดหลวง)

สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตั้งข้อสังเกตว่าเฉพาะในประเทศอิตาลีมีศาสนบริกร (บาดหลวง หรือพระสงฆ์) ประมาณ 100 องค์ และนายแพทย์ประมาณ 154 คนที่เสียชีวิตเพราะการรับใช้ผู้ป่วยและติดเชื้อจากโรคระบาดโควิด19

“ขอให้แบบฉบับของผู้เลี้ยงแกะที่ดี คือ ศาสนบริกร และนายแพทย์ ช่วยพวกเราให้ดูแลประชากรศักดิ์สิทธิ์และซื่อสัตย์ของพระเจ้า” พระองค์ทรงอธิษฐานภาวนา

จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงไตร่ตรองถึงภาพลักษณ์ของผู้เลี้ยงแกะที่ดี ที่มีการกล่าวไว้ในบทอ่านที่หนึ่งจากจดหมายฉบับแรกของเปโตร (1 ปต. 2: 20-25) และพระวรสารโดยนักบุญยอห์น (ยน. 10: 1-10)

นักบุญเปโตรอธิบายว่า พระเยซูคริสต์เป็นดั่งผู้เลี้ยงแกะที่ดี เป็นผู้ที่เสด็จมาเพื่อช่วยบรรดาแกะที่หลงทางของพระองค์ โดยการรับแบกบาปของลูกแกะ พระเยซูคริสต์ทรงปลดให้พวกเราเป็นไทจากบาป เพราะการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ พวกเราได้กลับไปยังผู้เลี้ยงแกะของพวกเรา “ผู้พิทักษ์ดวงวิญญาณของพวกเรา” (1 ปต. 2: 25) นักบัญยอห์นอธิบายว่า พระเยซูคริสต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เลี้ยงแกะที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็น “ประตูซึ่งลูกแกะเข้าไปอีกด้วย”

แต่โชคร้ายดังที่พระเยซูคริสต์ทรงกล่าวไว้ในพระวรสาร เพราะการปรากฏตัวของ“ผู้เลี้ยงแกะแบบปลอมตัวมา” มากมาย ที่แอบแฝงเข้ามาขโมยและเอารัดเอาเปรียบลูกแกะของพระเยซูคริสต์ “พวกเขาไม่สนใจในฝูงแกะ” สมเด็จพระสันตะปาปาทรงอธิบาย ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่ชอบไต่บันได เล่นการเมือง หรือเงินทอง แต่ฝูงแกะย่อมทราบดีเสมอว่าใครเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี และใครเป็นขโมย

ลูกแกะรู้จักแยกแยะว่าใครเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ลูกแกะเจริญเติบโตอย่างดีเพราะผู้เลี้ยงแกะที่ดีรู้จักฟัง ให้คำแนะนำ โอบอ้อมอารี และเอาใจใส่ลูกแกะ ลูกแกะจะมอบตนเองให้แก่ผู้เลี้ยงแกะที่ดีเหล่านั้นที่มีความละม้ายคล้ายกับพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นต้นแบบของผู้เลี้ยงแกะที่ดี ในมุมมองนี้ลูกแกะจะไม่มีวันหลงทาง พระองค์ตรัส มีแต่ผู้เลี้ยงแกะที่ดีที่ละม้ายคล้ายกับพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่จะได้รับความไว้วางใจจากฝูงแกะ ตามรูปแบบของพระเยซูคริสต์เท่านั้น ไม่มีผู้อื่นใด”

รูปแบบหรือลักษณะดังกล่าวได้ถูกลอกเลียนจากเปโตร พระเยซูคริสต์ “ทนทุกข์ทรมาน” เพื่อลูกแกะของ เพราะฉะนั้นพวกเราสามารถที่จะเจริญรอยตามพระยุคลบาทของพระองค์” พระองค์ไม่เคยตอบโต้ต่อคำกล่าวร้าย นั่นคือ “ความสุภาพอ่อนโยน” สมเด็จพระสันตะปาปาตรัส ซึ่งเป็นเครื่องหมายประการหนึ่งของผู้เลี้ยงแกะที่ดี” หากผู้เลี้ยงแกะที่ดีไม่สุภาพอ่อนโยน เขาก็แอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ มีวาระซ่อนเร้น เพราะ “ความสุภาพอ่อนโยนแท้จริง จะทำให้ตนเองถูกมองว่าไม่มีการปกป้องตนเอง”

ผู้เลี้ยงแกะที่ดีจะอยู่ใกล้ชิดกับแกะแต่ละตัว ด้วยความรัก ความใส่ใจ และจะรู้จักชื่อแกะทุกตัว “เขาจะเอาใจใส่ดูแลทุกตัวราวกับว่ามีแกะตัวเดียว” พระองค์ตรัสต่อ ความจริงแล้วเมื่อตะวันตกดิน ผู้เลี้ยงแกะที่ดีจะทราบว่ามีแกะตัวหนึ่งที่ยังไม่กลับมายังคอก เขาจะออกไปติดตามแกะตัวนั้นโดยไม่คำนึงว่าตนเองจะเหน็ดเหนื่อยสักเท่าใด “นี่คือนายชุมภาบาลที่ดี” “นี่คือพระเยซูคริสต์”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงชี้ให้เห็นว่าภาพลักษณ์ของผู้เลี้ยงแกะที่ดี ของฝูงแกะ และลูกแกะคือ “รูปแบบแท้จริงของปัสกา” พระองค์ตรัสว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเอาใจใส่ดูแลพระศาสนจักรอย่างใกล้ชิด”

เพราะฉะนั้น “วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่งดงาม” พระองค์สรุปบทเทศน์ “นี่เป็นวันอาทิตย์แห่งสันติสุขและความสุภาพอ่อนโยน เพราะว่าผู้เลี้ยงแกะที่ดีทรงเอาใจใจใส่ดูแลพวกเรา พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีของตัวฉันเอง ฉันจะไม่ต้องการอะไรอีก”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจบพิธีมิสซาด้วยการอวยพรศีลมหาสนิทพร้อมกับทรงเชื้อเชิญสัตบุรุษให้มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

        ข้าแต่พระเยซูคริสต์ ลูกขอกราบลง ณ แทบพระบาทของพระองค์ ลูกขอมอบการเป็นทุกข์ถึงบาปจากใจจริงของลูก ดวงใจที่มัวแต่สาละวนอยู่กับสิ่งที่ไม่เป็นเรื่องอันไร้สาระต่อหน้าพระพักตร์พระองค์  ลูกขอกราบนมัสการพระองค์ในศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งความรักของพระองค์ ในขณะที่กำลังรอที่จะรับความสุขแห่งศีลมหาสนิท ลูกปรารถนาที่จะรับพระองค์ทางจิตวิญญาณ  ข้าแต่พระเยซูคริสต์ โปรดเสด็จมายังลูกเพื่อลูกจะได้เข้าไปหาพระองค์  ขอให้ความรักของพระองค์จงเผาตัวลูกทั้งในชีวิตและในความตาย ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกไว้ใจในพระองค์ ลูกรักพระองค์ อาแมน

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรานซิสมาแบ่งปันและไตร่ตรอง)