Skip to content

การเข้าเฝ้าแบบทั่วไปทั่วไปและการสอนคำสอนวันพุธที่ 22 เมษายน 2020

โอกาสวันรำลึกคุณ “ผืนแผ่นดินโลกปีที่ 50”

พวกเราเราต้องฟื้นฟูการให้ความเคารพอย่างประเสริฐต่อแผ่นดิน

พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงอุทธรณ์เกี่ยวกับการกลับใจเชิงระบบนิเวศน์โดยอาศัยการกระทำที่เป็นรูปธรรมตามวิถีเล็กๆของแต่ละบุคคล

“ในการรำลึกถึงแผ่นดินวันนี้” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัส “พวกเราถูกเรียกร้องให้ฟื้นฟูจิตสำนึกแห่งการให้ความเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ต่อแผ่นดินโลก เพราะผืนแผ่นดินไม่ใช่เป็นแค่บ้านส่วนรวมของพวกเราเท่านั้น แต่เป็นบ้านของพระเจ้าด้วย

พระองค์เน้นว่าการกระทำดังกล่าว “ควรทำให้เราทุกคนรับรู้ว่าพวกเราต่างยืนอยู่บนผืนแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงอุทธรณ์เรื่องนี้ ในช่วงการเข้าเฝ้าแบบทั่วไปเช้าวันพุธที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2020 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดจากห้องสมุดวาติกัน

เมื่อรำลึกว่าวันนี้เป็นวันครบ 50 ปีแห่งวันแผ่นดินโลก พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงการสอนคำสอนเกี่ยวกับการดูแลรักษาแผ่นดินโลก

วันนี้เป็นโอกาสที่จะฟื้นฟูหน้าที่ของพวกเราที่จะรัก และเอาใจใส่ดูแลแผ่นดินโลกเพื่อบ้านส่วนรวมของพวกเรา และเพื่อสมาชิกที่อ่อนแอกว่าของครอบครัวมนุษย์ของพวกเรา สมเด็จพระสันตะปาปาตั้งข้อสังเกตว่า “การแพร่โรคระบาดร้ายโคโรนาสอนพวกเราว่า พวกเราสามารถเอาชนะต่อการท้าทายระดับโลกได้ด้วยการแสดงความเอื้ออาทรต่อกันและกันเท่านั้น พร้อมกับช่วยโอบอุ้มคนที่อ่อนแอเปราะบางท่ามกลางพวกเรา”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตั้งข้อสังเกตอีกว่า สมณสาส์นเวียนเกี่ยวกับการรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของพระองค์ Laodato Si’  พูดเฉพาะเรื่องนี้ “การเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา”  โดยเน้นว่า “พวกเราจำต้องสร้างจิตสำนึกให้มากขึ้นในการเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา”

พระองค์ทรงรำพันว่าพวกเราล้มเหลวในการดูแลรักษาผืนแผ่นดินโลก และล้มเหลวในการเอาใจใส่ดูแลบรรดาพี่น้องชายหญิงของพวกเรา

“พวกเราทำบาปต่อแผ่นดินโลก ต่อเพื่อนบ้านของพวกเรา และในทีสุดต่อพระผู้สร้างพระบิดา ผู้ทรงพระทัยดีดี ซึ่งดูแลทุกคนและปรารถนาให้พวกเรามีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกันและเจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน”

เพื่อเน้นถึงความสำคัญของประเด็นนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเปิดดูสิ่งที่ทรงลิขิตไว้แล้วตรัสถามว่า “แล้วแผ่นดินโลกมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร?”

“คำพังเพยที่เป็นภาษาสเปนกล่าวไว้อย่างชัดถ้อยชัดคำ” พระองค์ตรัส “พระเจ้าทรงให้อภัยเสมอ พวกเรามนุษย์ให้อภัยเป็นบางครั้ง แต่ผืนแผ่นดินโลกไม่มีวันให้อภัย”  ผืนแผ่นดินโลกไม่เคยให้อภัย ถ้าหากพวกเราทำลายโลก การตอบโต้จากผืนแผ่นดินจะร้ายแรงมาก”

เมื่อเน้นถึงความรับผิดชอบส่วนตัวของเราแต่ละคน  พวกเราควรที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูความสมานฉันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างไร? สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเรียกร้อง “ขอให้พวกเรากลับใจเชิงระบบนิเวศน์ที่สามารถแสดงออกด้วยการกระทำที่เป็นรูปธรรม”

“ในฐานะที่เป็นครอบครัวเดียวและมีอิสระ พ่อเรียกร้องให้มีแผนงานร่วมเพื่อที่จะระงับภัยต่อบ้านส่วนรวมของพวกเรา” พระองค์ตรัส

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเตือนใจว่าเราแต่ละคนสามารถมีส่วนช่วยได้ด้วยวิธีเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันของพวกเรา

“ในเทศกาลปัสกาแห่งการฟื้นฟูนี้” สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัส “พ่อขอให้พวกเราปวารณาตนที่จะชื่นชมต่อของขวัญอันสวยงามของแผ่นดินโลกที่เป็นบ้านส่วนรวมของพวกเรา  และพ่อขอให้พวกเราเอาใจใส่ดูแลสมาชิกทุกคนแห่งครอบครัวมนุษย์ของพวกเรา”

การสอนคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (ฉบับเต็ม)

อรุณสวัสดิ์ลูกๆ และพี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย

        วันนี้พวกเราฉลองวันรำลึกปีที่ 50 ของ “วันแผ่นดินโลก” นี่เป็นโอกาสที่พวกเราต้องรื้อฟื้นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องรัก และเอาใจใส่ดูแลรักษาผืนแผ่นดินโลก ที่เป็นบ้านส่วนรวมของพวกเราเพื่อสมาชิกที่อ่อนแอเปราะบางแห่งครอบครัวมนุษย์ของพวกเรา  ดังที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ณ วันนี้ ให้บทเรียนแก่พวกเรา  พวกเราสามารถเอาชนะต่อการท้าทายระดับโลกได้ด้วยการแสดงความเอื้ออาทรต่อกัน และโอบอุ้มผู้ที่อ่อนแอเปราะบางท่ามกลางพวกเรา  สมณสาส์นเวียน “Laudato Si’” มีการพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ “การดูแลเอาใจใส่บ้านส่วนรวมของพวกเรา”  วันนี้พ่อขอให้พวกเราไตร่ตรองร่วมกันเกี่ยวกับความรับผิดชอบซึ่งเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่ง “ในการเดินทางของพวกเราบนผืนแผ่นดินโลกนี้” (Laudato Si’, ข้อ 160)  พวกเราต้องพัฒนาจิตสำนึกแห่งการเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา

        พวกเราได้รับการปรุงแต่งจากแผ่นดินโลก และผลของแผ่นดินโลกหล่อเลี้ยงชีวิตของพวกเรา ดังที่หนังสือพระคัมภีร์ปฐมกาลเตือนใจพวกเรา พวกเราต้องไม่พะวงอยู่แต่เรื่องของโลก  ภายในตัวพวกเรายังมีปังแห่งชีวิตที่มาจากพระเจ้า (เทียบ ปฐก. 2: 4-7) ดังนั้นพวกเรามีชีวิตอยู่ในบ้านส่วนรวมนี้ในฐานะที่เป็นครอบครัวมนุษยชาติที่มีความแตกต่างจากสัตว์ทั่วไป ในฐานะที่พวกเราเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า พวกเราถูกเรียกร้องให้ต้องดูแลเอาใจใส่ และต้องให้ความเคารพต่อธรรมชาติสิ่งสร้างทั้งปวง และเพื่อมอบความรักและการเห็นอกเห็นใจให้แก่บรรดาเพื่อนพี่น้องชายหญิงของพวกเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่มีความอ่อนแอเปราะบางในหมู่พวกเรา เพื่อเลียนแบบความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อพวกเรา ซึ่งแสดงออกในองค์พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ พระผู้ทรงเสด็จมารับสภาพมนุษย์ เพื่อแบ่งสถานการณ์นี้กับพวกเราและเพื่อช่วยพวกเราให้รอด

        เพราะการเห็นแก่ตัว พวกเราจึงล้มเหลวในความรับผิดชอบของพวกเราในการเป็นผู้พิทักษ์รักษาดูแลผืนแผ่นดินโลก  “พวกเราเพียงแต่ต้องตั้งใจมองความจริงเพื่อที่จะเห็นว่าบ้านส่วนรวมของพวกเราที่กำลังพังเสียหายอย่างหนัก” (ibid., ข้อ 61)  พวกเราทำให้อากาศมีมลพิษ พวกเราเองทำลายภูมิอากาศ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเราเอง ด้วยเหตุนี้ขบวนการขับเคลื่อนทั้งระดับสากลและระดับท้องถิ่นต่างลุกขึ้นมาอุทธรณ์ต่อมโนธรรมของพวกเรา พ่อขอชื่นชมความคิดริเริ่มเหล่านี้ อันถึงขั้นจำเป็นที่เด็กๆต้องลงบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องต่อพวกเรา ผู้ใหญ่ในปัจจุบันว่า พวกเขาจะไม่มีอนาคตหากพวกเราต่างพากันทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเรา

        พวกเราล้มเหลวจริงๆในการเอาใจใส่ดูแลโลก บ้านสวนไร่นาของพวกเราเอง  พวกเราล้มเหลวในการเอาใจใจใส่ดูแลบรรดาพี่น้องชายหญิงของพวกเรา พวกเราได้ทำบาปต่อผืนแผ่นดินโลก ต่อเพื่อนบ้านเพื่อนมนุษย์ของพวกเรา และต่อพระผู้สร้าง พระบิดาผู้ทรงพระทัยดี ในการดูแลพวกเราทุกอย่าง และปรารถนาให้พวกเราดำเนินชีวิตในความเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อที่เจริญก้าวหน้าไปพร้อมๆกัน  แล้วแผ่นดินโลกตอบโต้พวกเราอย่างไรบ้าง? คำพังเพยภาษาสเปนอันหนึ่งที่ชัดเจนมากในประเด็นนี้ ซึ่งกล่าวว่า “พระเจ้าทรงให้อภัยเสมอ พวกเรามนุษย์ให้อภัยเป็นบางครั้ง แต่แผ่นดินโลกไม่เคยให้อภัยใครเลย”  ผืนแผ่นดินโลกจะไม่มีวันให้อภัย ถ้าหากพวกเราทำลายแผ่นดินโลกหรือเนรคุณต่อผืนแผ่นดิน การตอบโต้จากผืนแผ่นดินนั้นจะร้ายแรงมากเกินกว่าจะคิด

        พวกเราจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่สมานฉันกับแผ่นดินโลกได้อย่างไร และกับเพื่อนมนุษย์อื่นๆได้อย่างไร?  ความสัมพันธ์ที่สมานฉันกัน… บ่อยครั้งทีเดียวที่พวกเราลืมภาพแห่งความสมานฉัน  ความสมานฉันเป็นผลงานของพระจิต ในบ้านส่วนรวมบนแผ่นดินโลกนี้ของพวกเราก็เช่นเดียวกัน รวมถึงความสัมพันธ์กับมนุษย์ กับเพื่อนบ้าน กับคนยากจน พวกเราจะฟื้นฟูความสมานฉันได้อย่างไร?  พวกเราจำเป็นต้องใช้หนทางใหม่ในการมองไปยังบ้านส่วนรวมของพวกเรา  พวกเราต้องมีความชัดเจน  แผ่นดินนี้ไม่ใช่โกดังเก็บข้าวของ หรือแหล่งเงินทองที่เปิดช่องทางให้พวกเราคอยเอารัดเอาเปรียบกัน สำหรับพวกเราที่มีความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติของโลกคือ “พระวรสารแห่งการสร้างสรรพสิ่ง” นี่แสดงถึงอำนาจการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์ของพระเจ้าในการหล่อหลอมชีวิตมนุษย์พร้อมกับนำโลก และสิ่งที่มีอยู่ในโลกให้มีตัวตนสำหรับการหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ ตามคำบอกเล่าของพระคัมภีร์เกี่ยวกับการสร้างสรรพสิ่ง ได้สรุปว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่าทุกสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นมานั้นดีมาก” (ปฐก. 1: 31) พวกเราเห็นภัยธรรมชาติที่การตอบโต้ของแผ่นดินโลกมีต่อการกระทำที่เลวร้ายจากพวกเรามวลมนุษย์ พวกเราทำลายธรรมชาติ พ่อคิดว่า “หากพ่อถามพระเยซูคริสต์ว่า ณ เวลานี้พระองค์ทรงคิดอย่างไร พ่อไม่คิดว่าพระองค์จะตอบพ่อว่า บางสิ่งดีมาก” พวกเรานั่นแหละคือผู้ที่ทำลายผลงานการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์ของพระเจ้า!

        ในวันนี้ที่พวกเรารำลึกถึงด้วยความกตัญญูต่อ “วันแผ่นดินโลก” พวกเราถูกเรียกร้องให้ต้องฟื้นฟูจิตสำนึกเของพวกเราใหม่ ขอให้การเคารพผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ ผืนแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสร้างเพื่อพวกเรา เพราะว่าผืนแผ่นดินไม่เป็นแต่บ้านส่วนรวมของพวกเราเท่านั้น แต่แผ่นดินเป็นบ้านของพระเจ้าด้วย  นี่ควรที่จะทำให้พวกเราทุกคนรับรู้อย่างดีว่า พวกเรากำลังยืนอยู่บนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์

        พี่ลูกๆ น้องชายหญิงที่รัก  “ขอให้พวกเราปลุกจิตสำนึกแห่งความสวยงามและด้วยจิตพิศเพ่งที่พระเจ้าทรงประทานให้” (Post-Synodal Apostolic Exhortation Querida Amazonia, 56)  ของขวัญอันประเสริฐที่เป็นคำทำนายแห่งการพิศเพ่งเป็นอะไรที่พวกเราสามรถเรียนรู้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากชนพื้นเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ พวกเขาสอนใจพวกเราว่า  พวกเราสามารถเยียวยาแผ่นดินโลกได้  ถ้าหากพวกเรารักและเคารพต่อผืนแผ่นดิน บรรดาชนพื้นเมือง กลุ่มชาติพันธุ์มีปรีชาญาณในการ “เจริญชีวิตอย่างดี” ไม่ใช่ในความหมายว่าพวกเขามีเวลาที่ดี ไม่เลย แต่นั่นเป็นการดำเนินชีวิตในความสมานฉันกับแผ่นดินโลก ตามวิถีของธรรมชาติ พวกเขาเรียกความสมานฉันนี้ว่า “การดำเนินชีวิตที่ดี

        ในเวลาเดียวกันพวกเราต้องกลับใจเชิงระบบนิเวศน์ ซึ่งสามารถพบได้ในการแสดงออกด้วยการกระทำที่เป็นรูปธรรม ในฐานะที่เป็นครอบครัวที่เป็นอิสระ พวกเราต้องมีแผนงานร่วมกันเพื่อที่ระงับ หยุดทำลาย และการคุกคามต่อบ้านส่วนรวมของพวกเรา “การเป็นอิสระ การมีเสรีภาพบังคับให้พวกเราต้องคิดถึงแผนการแห่งโลกใบเดียวที่จำเป็นต้องมีแผนการ ผนึกกำลังร่วมกัน” (Laudato Si’, ข้อ 164)  พวกเรารับรู้อย่างดีถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในฐานะที่เป็นชุมชนระดับสากลเพื่อคุ้มครองบ้านส่วนรวมของพวกเรา พ่อขอร้องผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ผู้นำช่วยชี้นำให้มีการเตรียมตัวสำหรับการประชุมที่สำคัญในระดับสากลสองครั้งเกี่ยวกับการรักษาสภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ “COP15 on Biodiversity in Kunming, China, and COP 26 on Climate Change in Glasgow, United Kingdom”  การประชุมสองครั้งนี้มีความสำคัญมาก

        พ่อมีความปรารถนาอย่างยิ่งจะสนับสนุนการกระทำร่วมกันในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยได้มากหากประชาชนในทุกระดับของสังคมมาพร้อมหน้ากันสร้างกระบวนการขับเคลื่อนแบบประชานิยม จากฐานราก”  วันแผ่นดินโลกที่พวกเรารำลึกถึงกันวันนี้ พวกเราแต่ละคนสามารถให้การร่วมมือเล็กๆน้อยๆตามความสามารถของตน  “พวกเราไม่จำเป็นต้องไปคิดว่าความพยายามเหล่านี้จะไปเปลี่ยนโลก แต่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม บางครั้งพวกเราเองก็ไม่ทราบ เพราะเป็นความดี เป็นประโยชน์สุข ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนเห็นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการแผ่ขยายออกไป” (Laudato Si’, ข้อ 212)

        ในเทศกาลปัสกาแห่งการฟื้นฟูชีวิตนี้ พ่อขอให้พวกเราตั้งปณิธานที่จะรักและชื่นชมของขวัญที่สวยงามของแผ่นดินโลกและเอาใจใส่ดูแลสมาชิกทุกคนแห่งครอบครัวมนุษย์ของเรา เฉกเช่นที่พวกเราเป็นพี่น้องกัน ขอให้พวกเราพร้อมใจกันวิงวอนต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ของพวกเรา  “โปรดส่งพระจิตของพระองค์ลงมาเพื่อฟื้นฟูโฉมหน้าแห่งแผ่นดินใหม่ด้วยเถิดพระเจ้าข้า” (เทียบ สดด, 204: 30)

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทเทศน์นี้มาแบ่งปันและไตร่ตรอง)