Skip to content
วันอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา 12 พฤศจิกายน 2017

วันอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา 12 พฤศจิกายน 2017

ความปรารถนาจริงใจฟังคำสอน

อุปมาต่างๆ จากพระวรสารนักบุญบทท้ายๆ ทำให้เราเข้าใจพระเจ้าทรงทำงานในประวัติศาสตร์  พระพรแห่งชีวิตนิรันดรในพระเยซูเจ้าตัดสินชีวิตของเรา

นายเจ้าขา  นายเจ้าขา

อุปมานี้กล่าวถึงพิธีแต่งงานในสมัยพระเยซูเจ้า  เมื่อถึงเวลากำหนด เจ้าบ่าวมาถึงพร้อมกับบรรดาแขกรับเชิญทุกคน  งานฉลองจึงเริ่ม    พระวรสารนักบุญมัทธิวมีประสบการณ์ของพระศาสนจักร  นำเสนอชุมชนคริสตชนสมัยนั้นให้เราทราบ  ดังเช่นหญิงสาว 10 คน รอรับเจ้าบ่าว  มีทั้งคนโง่และคนฉลาด (ข้อ 1-4) ในโอกาสต่างๆ นักบุญมัทธิวชี้ให้เห็นความแตกต่างและแม้การแตกแยกในวัด  การมาช้าของเจ้าบ่าวจะเผยแสดงสถานการณ์  ตอนแรก หญิงสาวทุกคนปฏิบัติเหมือนกัน “ทุกคนต่างง่วงและหลับไป” (ข้อ 5)  ข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ถูกตำหนิในตอนนี้  ไม่ใช่จุดโฟกัส  สิ่งที่น่าสนใจ คือ หญิงสาวบางคนนำน้ำมันใส่ขวดมาพร้อมกับตะเกียง แต่คนอื่นไม่มี  ดังนั้น พวกเธอพบสถานการณ์ที่แตกต่างกันเมื่อเจ้าบ่าวมาถึง (ข้อ 8-9)

เจ้าบ่าว หมายถึง พระเจ้า  การเสด็จมาถึงของพระองค์เป็นการพิพากษา  ใครที่ได้ยินข้อความนี้และนำไปปฏิบัติ  จะได้เข้าพระอาณาจักร “หญิงสาวที่เตรียมพร้อมจึงเข้าไปในห้องงานแต่งงานพร้อมกับเจ้าบ่าว” (ข้อ 10)  ส่วนใครที่มิได้ปฏิบัติตามพระวรสารว่าเป็นกฎเกณฑ์ชีวิต  บางทีพูดให้ถูกกว่า คือ ผู้ที่รับเพียงแค่เป็นพิธี  พระเจ้าจะตรัสว่า “เราไม่รู้จักท่าน” (ข้อ 12)  ความหมายก็คือ ปฏิเสธบรรดาผู้แกล้งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เป็น  ผู้ที่มิได้ดำเนินชีวิตเป็นศิษย์แท้ของพระเยซูเจ้า  แล้วกล่าวว่า “นายเจ้าขา นายเจ้าขา เปิดรับพวกเราด้วย” (ข้อ 11)  สำนวนนี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่สอนใน  มธ 7:21 “มิใช่ทุกคนที่กล่าวว่า พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า จะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ “บรรดาผู้ที่เชื่อแต่ปากเท่านั้น  พระเจ้าจะตรัสว่า ‘เราไม่รู้จักท่าน… จงไปให้พ้นหน้าเรา’ ” (7:23)

จงตื่นเฝ้าระวังไว้เถิด

พระวาจาตอนนี้สรุปด้วยการสอนให้ตื่นเฝ้า  สนใจปฏิบัติตามคำสั่งของพระวรสาร (ข้อ 13)  ความหวังทำให้เราตื่นเฝ้า  นักบุญเปาโลเตือนใจเราว่า  พื้นฐานของความหวังนี้ คือ ความมั่นใจว่าพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย  ชีวิตถูกควบคุมด้วยความตาย  ทำให้เกิดความโศกเศร้าเสียใจ (1 ธส 4:13)  ความหวังทำให้เรากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางนี้  การเชื่อในการกลับคืนชีพทำให้เรามั่นใจ  ชีวิตที่รู้ว่าไม่มีข้อจำกัดทางประวัติศาสตร์  หรือเวลาการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู (ข้อ 14) ทำให้เรามีชีวิตในความรักเหมือนที่พระเยซูเจ้าได้ปฏิบัติ  พระเจ้าจะทรงนำบรรดาผู้ปฏิบัติเช่นนี้มาหาพระองค์ (ข้อ 14)  ชีวิตนิรันดรเริ่มแล้วที่นี่และบัดนี้  มิฉะนั้นก็ไม่ใช่นิรันดร  อย่างไรก็ดี ความหวังในชีวิตนิรันดรเป็นพระพรจากพระเจ้า

พระคัมภีร์เชิญเราให้มีความปรารถนาจริงใจต่อคำสอนนี้  ต่อความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า  นี่คือ ปรีชาญาณ “ผู้รักปรีชาญาณย่อมปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ  ผู้เชื่อฟังธรรมบัญญัติย่อมได้รับการรับรองว่าจะมีชีวิตอมตะ” (ปชญ 6:18)  ปรีชาญาณจะ “ทำให้เราอยู่ใกล้ชิดพระเจ้า” (ปชญ 6:19)  ปรีชาญาณจะช่วยเราให้ไตร่ตรองสิ่งที่เรียกร้องในพระวรสารนักบุญมัทธิววันนี้    คงเป็นไปไม่ได้ที่กล่าวว่า เราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าถ้าเราไม่ปฏิบัติตามคำสอนนี้

บิชอป  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Sharing the Word Through the Liturgical Year
 โดย Gustavo Gutierrez, หน้า 257-258.