Skip to content

สมณลิขิตในรูปแบบอัตตาณัติ (Motu Proprio)
ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ดุจมารดาผู้น่ารัก
(“Like a Loving Mother” – “Come una madre amorevole”)

ดุจมารดาผู้น่ารัก  พระศาสนจักรรักบรรดาบุตรทุกคน  และก็มีความเอาใจใส่ในการปกป้องคุ้มครองด้วยความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาลูกเล็กๆ และผู้ที่ปกป้องตนเองไม่ได้  นี่เป็นงานที่พระคริสตเจ้าทรงมอบแก่ทั้งชุมชนคริสตชนร่วมกัน  ด้วยความเข้าใจสิ่งนี้  พระศาสนจักรอุทิศตนดูแลปกป้องเป็นพิเศษแก่เด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ดูแลตนเองไม่ได้

หน้าที่ปกป้องและดูแลนี้  เป็นหน้าที่ของพระศาสนจักรทั้งหมด  แต่เป็นพิเศษโดยอาศัยบรรดาผู้อภิบาลต้องปฏิบัติหน้าที่  บรรดาบิชอปสังฆมณฑล  และบรรดาผู้มีความรับผิดชอบพระศาสนจักรท้องถิ่น  ต้องพยายามปกป้องบรรดาผู้ที่อ่อนแอที่ตนได้รับมอบหมาย

กฎหมายพระศาสนจักรได้เห็นถึงเรื่องการปลดออกจากหน้าที่ในพระศาสนจักร  ในกรณีมีเหตุผลหนัก  ที่เกี่ยวกับบรรดาบิชอปสังฆมณฑล  และบรรดาผู้ที่รับผิดชอบตามกฎหมาย  (เทียบมาตรา 193 วรรค 1 และ 974 วรรค 1)  ที่ละเลยปฏิบัติหน้าที่  โดยเฉพาะในกรณีเกี่ยวกับการทำผิดทางเพศต่อผู้เยาว์  และผู้ใหญ่ที่ดูแลตนเองไม่ได้  ตามที่นักบุญยอห์น ปอล ที่ 2  ได้ออกคำสั่งไปแล้ว  และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ที่รัก  ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนข้าพเจ้า  ได้สอนต่อมา

มาตรา 1          §1. บิชอปสังฆมณฑลหรือผู้ที่มีความรับผิดชอบชั่วคราว  มีความรับผิดชอบในพระศาสนจักรท้องถิ่น  หรือกลุ่มคริสตชนในลักษณะพระศาสนจักรท้องถิ่น (CIC 368  และ 313)  สามารถถูกปลดออกจากหน้าที่  หากละเลยหน้าที่ เมื่อมีการทำผิดหนักต่อบุคคลหนึ่ง  หรือกลุ่ม  ทั้งทางกายภาพ  ศีลธรรม  จิตใจ  หรือทรัพย์สมบัติ

  • 2. บิชอปสังฆมณฑลสามารถถูกปลดออกจากหน้าที่ ถ้าขาดความเอาใจใส่ในกรณีหนักมาก  ซึ่งถูกเรียกร้องจากหน้าที่อภิบาล  แม้มิได้เป็นเรื่องหนักทางศีลธรรมในส่วนของท่านด้วย
  • 3. ในกรณีทำผิดต่อผู้เยาว์ หรือต่อผู้ใหญ่ที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ถ้าท่านขาดการดูแล  ก็ถือเป็นเรื่องหนัก
  • 4. ในหน้าที่บิชอปสังฆมณฑล ผู้ใหญ่ของคณะนักบวชและคณะธรรมทูต  ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เหมือนบิชอป

มาตรา 2          §1. ในทุกกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวข้องกับมาตราที่ได้อ้างมา  สมณกระทรวงที่เกี่ยวข้องของโรมัน คูเรีย สามารถเริ่มสอบสวน  โดยแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้อง  และให้โอกาสเขาแสดงเอกสารและพยาน

  • 2. บิชอปสามารถปกป้องตนเอง  สิ่งที่เขาจะทำโดยใช้กฎหมายทุกขั้นตอนของการสอบสวนต้องแจ้งให้เขาทราบ  และให้มีโอกาสพบผู้ใหญ่ของสมณกระทรวงเสมอ  การพบนี้  ถ้าบิชอปมิได้ขอ  สมณกระทรวงจะแจ้งเอง
  • 3. หลังจากบิชอปนำเสนอแล้ว สมณกระทรวงสามารถดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม

มาตรา 3          §1. ก่อนการตัดสิน  สมณกระทรวงจะพบบรรดาบิชอปตามโอกาส  จากสภาบิชอป  หรือสมัชชาบิชอปของพระศาสนจักร  ซึ่งบิชอปองค์นั้นเป็นสมาชิก  เพื่อหารือในเรื่องนี้

  • 2. สมณกระทรวงยอมรับการตัดสินใจร่วมกันในการประชุมสามัญ

มาตรา 4          การปลดบิชอปออกจากหน้าที่  สมณกระทรวงจะ

  • 1. มีกฤษฎีกาการปลดจากหน้าที่ ให้เร็วที่สุด
  • 2. ให้บอกบิชอปด้วยความรักฉันพี่น้อง ให้ท่านยื่นใบลาออกเองภายใน 15 วัน ถ้าบิชอปไม่ตอบในเวลาที่กำหนด  สมณกระทรวงจะออกกฤษฎีกาการปลดออกจากหน้าที่ได้

มาตรา 5          การตัดสินใจของสมณกระทรวงในมาตรา 3-4  ต้องยื่นให้สมเด็จพระสันตะปาปาเป็นผู้อนุมัติ  ก่อนการตัดสินใจเด็ดขาด  พระองค์จะขอความคิดเห็นจากคณะผู้พิพากษาที่ได้เลือกโดยเฉพาะ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ประกาศในอัตตาณัตินี้  สั่งให้ปฏิบัติทุกข้อ… ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  และหนังสือพิมพ์ L’Osservatore Romano  มีผลบังคับใช้  วันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2016

จากวาติกัน  วันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2016     สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

บิชอป  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
16 มิถุนายน ค.ศ. 2016
จาก https://w2.vatican.va/content/francesco/it/motu_proprio/documents/papa-francesco-motu-proprio_20160604_come-una-madre-amorevole.html