Skip to content

วันอาคารที่ 10 พฤษภาคม 2016 โดยบิชอปฟรังซิสเซเวียร์วีระ อาภณณ์รัตน์  มีคุณพ่อ ซิสเตอร์ และสัตบุรุษเข้าร่วมมากมาย

ก่อนหน้านี้ ที่ดินอันเป็นที่ตั้งของร้านเรียกกันว่า “สวนซีเมโอน” เป็นที่ว่างเปล่าส่วนหนึ่ง มีลักษณะเหมือนสวนเล็กๆ ซึ่งพ่อเข้าใจว่าเดิมมีเจตนาใช้ให้เป็นเหมือนสวนหย่อนใจของชาวบ้าน แต่เพราะไม่ค่อยมีคนดูแลหรืออาจเล็กเกินไปจึงไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ตามเจตนา ที่สุดกลายเป็นเหมือนที่รกร้างไป อีกส่วนหนึ่งของสวนซีเมโอนเป็นบ้านหลังหนึ่งของวัด ซึ่งให้ผู้อาวุโส 2 ท่านเช่าพักอาศัย แต่ตัวบ้านก็อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก การจะปรับปรุงซ่อมแซม ผู้อาวุโสทั้งสองก็ไม่มีกำลังพอ อีกทั้งยังต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เนื่องจากความเก่าแก่ของอาคาร การซ่อมแซมอาจจะไม่คุ้มค่า ด้วยเหตุนี้ สภาภิบาลฯจึงมีความคิดเห็นที่จะดูแลท่านทั้งสอง โดยการจัดสร้างห้องพักให้ใหม่ และที่จะใช้ประโยชน์จากที่ดินนี้ โดยที่สุดมีข้อสรุป 2 ประการ คือ

  1. เนื่องจากคุณพ่อบรูโน รอสซี่ ซึ่งทำงานอภิบาลคริสตชนที่แจ้ห่ม กำลังดำเนินกิจการผลิตเม็ดกาแฟจำหน่ายโดยมีชื่อว่า กาแฟ Bruno เพื่อหารายได้ช่วยสนับสนุนชาวบ้านที่ปลูกกาแฟ อีกทั้งยังหารายได้สนับสนุนงานแพร่ธรรมของสังฆมณฑลเชียงใหม่ด้วย สภาภิบาลฯจึงมีความเห็นให้ช่วยกันสนับสนุนกาแฟของคุณพ่อบรูโน และใช้ที่ดินในการเปิดร้านกาแฟ ซึ่งจากทำเลที่ตั้ง ซึ่งนับวันจะมีผู้คนเดินผ่านไปมาไม่น้อย โดยเฉพาะในวันเรียน ก็จะมีผู้ปกครองนักเรียนทั้งของโรงเรียนพระหฤทัยและเรยีนาเชลีที่มาส่งและมารับบุตรหลาน นอกนั้นยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาด้วย ก็มีความหวังว่าจะมีลูกค้าเข้าร้านพอสมควรกับการลงทุน
  2. สภาภิบาลฯพบว่ามีชาวต่างชาติ รวมทั้งคนไทยด้วย มักจะแวะเวียนมาถามหาซื้อรูปพระและศาสนภัณฑ์ และหนังสือเกี่ยวกับศาสนาอยู่บ้าง แต่หากไม่มาวันอาทิตย์ช่วงเช้า ซึ่งเป็นเวลาเปิดร้านขายศาสนภัณฑ์ของอาสนวิหาร ก็ไม่สามารถให้บริการได้ หรือไม่สะดวกนั่นเอง สภาภิบาลฯจึงเห็นว่า สมควรที่เราจะมีร้านสำหรับให้บริการขายรูปพระและหนังสือเกี่ยวกับศาสนาด้วย

ด้วยเหตุนี้ สภาภิบาลฯจึงเห็นชอบให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อเปิดร้านขากกาแฟ ศาสนภันฑ์และหนังสือไปพร้อมกัน เนื่องจากมีพื้นที่กว้างเพียงพอ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ

  1. หารายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุนงานแพร่ธรมของสังฆมณฑลเชียงใหม่
  2. หารายได้สนับสนุนการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.)และทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษา”บ้านนาซาแร็ธ” ซึ่งโรงเรียนพระหฤทัยต้องแบกภาระหนักไม่น้อยในแต่ละปีในการสนับสนุน เพราะงบประมาณที่ได้รับจากภาครัฐ(กศน.)นั้นน้อยมาก ในการดำเนินการก่อสร้าง พ่อรบกวนขออาจารย์วรพรรณ นันทวงศ์ เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งอาจารย์ก็ยินดีช่วยอย่างเต็มที่ โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ นอกนั้น ยังมีคุณสุพนธ์ เขื่อนจินดาวงศ์ เป็นผู้ช่วยประสานงานและให้คำปรึกษาตลอดการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีคุณณัฐกานต์ สกุลหาญ  เป็นผู้รับเหมาการก่อสร้าง แม้จะเลยกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ไปบ้าง แต่ผู้รับเหมาก็ชดเชยด้วยการทำงานบริจาคอยู่หลายรายการทีเดียว  ในเรื่องอุปกรณ์ต่างๆและความรู้ที่จำเป็น มีคุณนฤมล ทักษอุดม หรือคุณปุ่น ซึ่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าพระหฤทัยและยังเป็นเจ้าของบริษัทฮิลล์คอฟฟ์ ผู้ให้บริการกาแฟและอุปกรณ์ครบวงจรเป็นผู้สนับสนุน ให้การอบรมแก่บาริสต้าของเรา และยังถวายเครื่องชงกาแฟ simonelliสองหัว ให้กับร้าน duomoของเราในนามของสมาคมศิษย์เก่าอีกด้วย  โดยมีซิสเตอร์สุรีย์พร ระดมกิจ เป็นผู้ประสานงาน ส่วนในเรื่องอุปกรณ์ภายในร้านและการตบแต่งต่างๆ มีอธิการศรีกัลยา เดื่อมคั้น ซิสเตอร์อุไรวรรณ คูหามงคลไพศาล และซิสเตอร์พรทิพย์ กันทู พร้อมกับพนักงานของเราช่วยกันดูแล      สุดท้าย ชุดโต๊ะและเก้าอี้เหล็ก หน้าเซรามิกทั้งหมด ตลอดจนของประดับร้านหลายชิ้นเป็นอภินันทนาการจากคุณทวิชและคุณสุวิชลี บุณยะวณิช ซึ่งออกแบบไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละชุดและผลิตเองด้วย ทั้งหมดนี้ อาสนวิหารฯขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

บัดนี้ ร้าน Duomo ถึงกำหนดพิธีเสกและเปิดร้านอย่างเป็นทางการแล้ว คือวันนี้ วันที่ 10 พฤษภาคม 2016    เรามีลูกๆนาซาแร็ธ3-4คน ไปเข้ารับการอบรมบาริสต้ารุ่นบุกเบิก เราตั้งชื่อร้านของเราว่า “DUOMO” ซึ่งเป็นภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า “อาสนวิหาร” นั่นเอง  หมายความว่า ร้านนี้มีความเกี่ยวข้องกับอาสนวิหารอย่างเด่นชัด พร้อมทั้งคำบอกกล่าวว่าในร้านนี้มีบริการ coffee Bruno และ religious articles & books  อนึ่ง โลโก้ของร้านนี้ออกแบบโดย Antonio Genuinแห่งเมือง Belluno สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน ซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณพ่อ Bruno Soppelsa และคุณพ่อกรุณาช่วยประสานงานให้ในเรื่องนี้ ซึ่งอาสนวิหารฯขอขอบคุณมา ณ ที่นี้เช่นเดียวกัน

                                                                                          พ่อสุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธุ์

 

1