คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตชนฆราวาส แผนกเยาวชน ได้จัดค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเวียนไปจัดใน 10 สังฆมณฑล ในปีนี้สังฆมณฑลเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดการชุมนุมเยาวชนคาทอลิกระดับชาติครั้งที่ 32 โอกาส “ปีศักดิ์สิทธิ์ พระศาสนจักรคาทอลิกไทย” ระหว่างวันที่ 12-17 ตุลาคม 2015 โดยใช้หัวข้อประจำงานว่า “ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา” (มธ.5:7) มีเยาวชนเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้จำนวน1,010 คน ประกอบไปด้วยเยาวชนไทยจาก 10 สังฆมณฑล , 4 องค์กร และเยาวชนจากประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ ประเทศลาว, ประเทศเวียดนาม, ประเทศกัมพูชา และประเทศพม่า
วัตถุประสงค์ของการชุมนุมเยาวชนคาทอลิกระดับชาติครั้งนี้มี 4 ประการคือ
- เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง “ปีศักดิ์สิทธิ์ พระศาสนจักรคาทอลิกไทย”
- เพื่อให้เยาวชนได้รับการฟื้นฟูและไตร่ตรองด้านคำสอน เรียนรู้จิตตารมณ์แห่งรักและเมตตาของพระเจ้า
- เพื่อส่งเสริมความเชื่อ ความศรัทธา และการศึกษาพระวาจาแก่เยาวชน ผ่านทางพิธีบูชาขอบพระคุณการรับศีลอภัยบาป การภาวนาเทเซ่ การภาวนาแบบ Bibliodramaและการแบ่งปันพระวาจาแบบ LectioDivina
- เพื่อฝึกทักษะ การเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นกลุ่ม ให้แก่ทีมงานเยาวชน
การชุมนุมในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ
ช่วงที่ 1 การร่วมชีวิตกับพี่น้องคริสตชน : ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม ค.ศ.2015 เยาวชนจำนวน 400 คน เดินทางไปสัมผัสชีวิตที่เขตวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ระหว่างทางได้หยุดพักที่บ้านธิดารักษ์ อ.จอมทอง เพื่อรับประทานอาหารและเปลี่ยนรถขึ้นดอยแล้วจึงเดินทางต่อไปยังโรงเรียนเซนต์โยเซฟแม่แจ่ม เพื่อปฐมนิเทศก่อนเข้าหมู่บ้านและกลับมาไตร่ตรองประสบการณ์ เยาวชนได้สัมผัสชีวิตอยู่กับชาวบ้าน และได้รับประสบการณ์ถึงความรักและความเมตตาของพระเจ้าผ่านทางการต้อนรับและความช่วยเหลือของชาวบ้าน
อนี่ง บิชอปโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีลได้อยู่ร่วมตลอดในช่วงการสัมผัสชีวิตและเป็นประธานในพิธีการส่งเยาวชนมาร่วมการชุมนุมต่อที่เชียงใหม่
ช่วงที่ 2 การชุมนุมเยาวชนและการเฉลิมฉลอง : ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม ค.ศ. 2015 มีเยาวชนประมาณ600 คนมาร่วมสมทบกับจำนวนเยาวชนที่ไปสัมผัสชีวิตบนดอย รวมทั้งสิ้น 1,010 คน โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่เป็นที่ชุมนุม
วันที่ 14 ตุลาคม 2015 บิชอปโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล รองประธานสภาบิชอปคาทอลิกแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการชุมนุม โดยพระคุณเจ้าได้กล่าวเปิดงานและตีกลองสะบัดชัยอันเป็นเครื่องหมายถึงการเปิดการชุมนุมอย่างเป็นทางการ จากนั้นสังฆมณฑลเจ้าภาพได้จัดการแสดงเปิดการชุมนุมอย่างสวยงาม ตระการตา บอกเล่าถึงความงดงามแห่งวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งสวยงามในความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ และนำเยาวชนย้อนรอยกลับไปสู่ประวัติศาสตร์การแพร่ธรรม 350 ปีพระศาสนจักรคาทอลิกไทย ผ่านทางการแสดงแสงสีเสียง อย่างสง่าสมเกียรติ
ตลอดการชุมนุมในครั้งนี้ เยาวชนได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลอง “ปีศักดิ์สิทธิ์ พระศาสนจักรคาทอลิกไทย” โดยแบ่งเยาวชนออกเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม ตามชื่อนักบุญองค์อุปถัมภ์ประจำงานชุมนุมครั้งนี้ คือ กลุ่มยอห์น ปอลที่2, กลุ่มโฟสตินา, กลุ่มดอมินิก ซาวีโอ และกลุ่มบุดสี
การชุมนุมครั้งนี้เยาวชนได้รับการส่งเสริมด้านความเชื่อ ความศรัทธา ผ่านทางการรำพึงพระวาจาแบบ LectioDivinaการร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ การรับศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี การภาวนาเทเซ่ การภาวนาแบบ Bibliodramaและที่สำคัญเยาวชนได้เรียนคำสอน เพื่อไตร่ตรองถึงความเชื่อในมิติต่างๆ โดยมีบิชอป บาทหลวงและซิสเตอร์ เป็นผู้สอน โดยมีหัวข้อการเรียนคำสอน ดังนี้
1. การศึกษาพระวาจาแบบ LectioDivinaเรื่องลูกล้างผลาญ (ลก 15:11-32)โดยบิชอปโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล
2. การเสวนากันฉันพี่น้องกับผู้มีความเชื่ออื่น โดย บิชอปยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์
3. เยาวชนในปีศักดิ์สิทธิ์มุ่งสู่การประกาศข่าวดีใหม่ โดย คุณพ่อปราโมทย์ นิลเพ็ชร
4. ศักดิ์ศรีมนุษย์และพระเมตตาของพระเจ้า โดย ซ.ศรีพิมพ์ ซาเวียร์
การเรียนคำสอนนี้ช่วยให้เยาวชนมีความเชื่อที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบรรยากาศตลอดการชุมนุมเต็มไปด้วยความร่าเริงยินดี การแสดงออกถึงมิตรไมตรีและการรับใช้ ซึ่งเป็นบรรยากาศความรักและเมตตาแบบคริสตชน
ในวันที่ 17 ตุลาคม 2015 บิชอปฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณปิดการชุมนุม ร่วมกับบิชอปโยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีลบิชอปยอห์น บอสโก ปัญญา กฤษเจริญและบิชอปยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ และมีบาทหลวงมาร่วมกว่า 50 คน หลังพิธี คุณพ่อเอกสิทธิ์ ทัฬหะกุลธร ประธานการจัดงานได้กล่าวรายงานสรุปและได้เชิญพระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์เป็นผู้มอบเกียรติบัตรให้กับผู้ร่วมงานทุกท่าน จากนั้น ได้มีพิธีส่งมอบธงเจ้าภาพจัดชุมนุมเยาวชนระดับชาติครั้งต่อไป โดยพระคุณเจ้าวีระได้ประกาศสังฆมณฑลที่จะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปคือ สังฆมณฑลอุบลราชธานี และได้มีพิธีส่งมอบธงอย่างสง่า พร้อมกับชมการแสดงของสังฆมณฑลอุบลราชธานี
การจัดงานในครั้งนี้ดำเนินไปด้วยดี และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ทางคณะกรรมการจัดงานครั้งนี้ขอขอบคุณท่านที่ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้การจัดงานครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดี