Skip to content

ป๊ปฟรังซิสได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของศาสนาคริสต์คาทอลิกอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นโป๊ป 2 ปีก่อน   ต่อไปนี้คือ 7 คำที่บรรยายวิธีปฏิรูปการปกครองของพระองค์

  1. ความอ่อนโยน (Tenderness) ความอ่อนโยนเป็นสไตล์หลักของพระองค์ เป็นอิริยาบถที่พระองค์ทรงต้องการทำโลกให้อ่อนโยนขึ้น “เข้มแข็งแต่ด้วยความอ่อนโยน” “อย่างนุ่มนวล”
  2. การออกไป (Going) พระสมณสาส์นเตือนใจ ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร เป็นเหมือนแถลงการณ์ (Manifesto) ของโป๊ปฟรังซิส เป็นการเชิญชวนชาวคาทอลิกทุกคนให้ละทิ้งที่สะดวกสบาย กล้าประกาศคำสอนของคริสตชน

“พ่อต้องการให้ลงมือปฏิบัติ จะมีเสียง (บ่น) ที่นี่บ้าง ที่นั่นบ้าง พ่อค่อนข้างแน่ใจ ในเมืองรีโอ เด จาไนโร (ประเทศบราซิล) มีเสียงมาก ไม่ต้องสงสัย แต่พ่อต้องการให้ท่านได้ยินเองในสังฆมณฑลต่างๆ ของพวกท่าน พ่อต้องการให้เลิกซุบซิบนินทา พ่อต้องการให้พระศาสนจักรออกไปตามถนนต่างๆ พ่อต้องการให้เราต่อต้านทุกสิ่งฝ่ายโลก ทุกสิ่งที่อยู่กับที่ (ไม่เปลี่ยนแปลง) ทุกสิ่งที่สะดวกสบาย ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับอิทธิพลของบาทหลวงนักบวช ทุกสิ่งที่อาจทำให้เราปิดตนเอง เขตวัด โรงเรียน สถาบันต่างๆ ต้องออกไป (ประกาศข่าวดี) … ถ้าหากไม่ไป มันก็กลายเป็นหน่วยงาน NGO พระศาสนจักรไม่ควรเป็น NGO

  1. การทิ้งขว้าง (Throwaway) บ่อยๆ โป๊ปฟรังซิสประณามความโหดร้ายของสังคมชอบทิ้งขว้าง ที่ไม่สนใจบุคคลที่อ่อนแอที่สุด คือ เด็กๆ คนยากจน ผู้ป่วย และคนชรา

“พ่อได้ถามสตรีคนหนึ่งว่า ลูกๆ มาเยี่ยมบ้างไหม เธอตอบว่า ใช่ พวกเขามาเยี่ยม พ่อถามว่า พวกเขามาเยี่ยมครั้งสุดท้ายเมื่อไร เธอตอบว่า คริสต์มาส เราอยู่ในเดือนสิงหาคม แปดเดือนแน่ะที่ลูกๆ ไม่มาเยี่ยม เธอถูกทอดทิ้งถึงแปดเดือน นี่เป็นบาปหนักนะ เข้าใจไหม”

  1. ชายขอบ (Peripheries) วิธีการด้านภูมิศาสตร์และการปกครองของพระศาสนจักรต้องเปลี่ยนแปลงด้วย พระองค์เสด็จครั้งแรกไปที่ลัมเปดูซ่า เป็นเกาะที่ผู้อพยพจำนวนมากเดินทางมาสู่ยุโรป พระองค์เสด็จเยี่ยมอัลบาเนียเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรป และการเดินทางครั้งแรกยังทวีปลาตินอเมริกา คือ โบลิเวีย ปารากวัย และเอกวาดอร์

พระองค์ได้เลือกบรรดาพระคาร์ดินัลจาก ประเทศไฮติ ตองก้า บูกินาฟาโซ ประเทศที่ไม่มีตัวแทนการทูตกับวาติกัน

เพื่อเข้าใจสภาพเป็นจริง โป๊ปได้กล่าวว่า เราต้องไปยังชายขอบของเมืองต่างๆ หรือ ชายขอบ ของโลก

  1. น้ำตา (Tears) โป๊ปฟรังซิสคิดว่า น้ำตาเป็นการตอบสนองเดียวที่มีผลต่อความทุกข์ของผู้อื่น พระองค์ประณามการไม่สนใจกันในสังคม

“พ่อขอเชิญท่านแต่ละคนให้ถามตนเองว่า ฉันรู้จักร้องไห้ไหม ร้องไห้อย่างไร ฉันรู้จักร้องไห้เพื่อบางคนที่ถูกทอดทิ้งไหม ฉันรู้จักร้องไห้เพื่อบางคนที่มีปัญหายาเสพติดไหม ฉันรู้จักร้องไห้สำหรับคนที่ทนทุกข์ถูกรังแกไหม”

  1. เมตตา (Mercy) ทุกคนที่กลับใจสามารถรับพระเมตตากรุณา โป๊ปกล่าวครั้งแล้วครั้งเล่า ทรงเชิญชวนเรา อย่าเหนื่อยท้อใจที่จะวอนขอพระเมตตา

พระเจ้าทรงเข้าใจเรา พระองค์ทรงรอคอยเรา พระองค์ไม่ทรงเบื่อที่จะให้อภัยเรา ถ้าเรากลับใจ ไปหาพระองค์ ถ้วยการเปิดหัวใจจริงๆ อย่าลืมว่า พระเจ้าไม่ทรงเบื่อที่จะให้อภัยเรา เป็นเราที่ไม่ยอมขอให้พระอภัยโทษเราต่างหาก

  1. ความชื่นชมยินดี (Joy) โป๊ปทรงเสนอสไตล์ชีวิตใหม่ จงพยายามดำเนินชีวิตเรียบง่ายและใจดีทุกวัน จะบันดาลให้เกิดกระแสความชื่นชมยินดีรอบตัวคนนั้น

“จงเป็นพยานชีวิตที่ชื่นชมยินดีที่พบปะพระเยซูเจ้า เพราะพ่อได้กล่าวว่า ใครพบปะพระเยซูเจ้า ชีวิตก็กำลังเปลี่ยนแปลง ทำให้เราชื่นชมยินดี ความชื่นชมยินดีนั้นมาจากภายใจ นั่นคือสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็น

ชีวิตของโป๊ปฟรังซิสมีความชื่นชมยินดี เราเห็นเด่นชัดในทุกครั้งที่พระองค์ปรากฏต่อหน้าประชาชน

บิชอป วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก http://www.romereports.com/pg160664-seven-words-that-best-explain-the-oepope-francis-approach-en#printnews
30 มีนาคม 2015