Skip to content
4.2.7

อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา 31 สิงหาคม 2014

 

บทอ่าน ยรม 20: 7-9 ; รม 12: 1-2 ; มธ 16: 21-27
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 226, 363, 540, 554, 607, 618, 736, 1021, 2029, 2232
จุดเน้น ไม่ผ่านความเจ็บปวด ก็ไม่ได้กำไร ไม่ผ่านกางเขน ก็ไม่ได้มงกุฎ

ในบทอ่านแรกวันนี้ ประกาศกเยเรมีย์บอกให้เราทราบว่าท่านทำงานให้พระเจ้าก็พบการดูถูกและการเหยียดหยาม ในบทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลสอนเราอย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกรอบตัวเรา แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อเราจะได้รู้จักวินิจฉัยพระประสงค์ของพระเจ้า และเติบโตสู่ความสมบูรณ์ เราทำเช่นนี้ เพื่อตอบโต้การทดลองต่างๆ ในชีวิตอย่างสมควร

วันอาทิตย์ที่แล้วเราได้ยินนักบุญเปโตรประกาศว่า พระเยซูคือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต พระเยซูเจ้าจึงทรงตั้งชื่อใหม่ให้ท่านเป็น ศิลา เหตุการณ์นี้เป็นจุดสำคัญในการพัฒนาพันธกิจของพระเยซูเจ้า และวันนี้พระองค์ทรงแนะนำคำสอนอีกว่า พระองค์จะรับการทรมาน “พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะ และธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม”

ความเชื่อชาวยิวทั่วไปในสมัยนั้นคิดถึงพระคริสตเจ้าผู้ทรงนำทางการทหาร ร่ำรวยและมั่งคั่ง และที่สำคัญ นำชาติอิสราเอลให้เป็นอิสระทางการทหาร พระองค์ต้องเอาชนะชาวโรมัน บรรดาศิษย์หลายคนก็คิดเช่นนี้ ดังนั้น เมื่อนักบุญเปโตรได้ยินพระเยซูเจ้าประกาศว่า พระองค์ต้องรับทรมานบนไม้กางเขน เปโตรจึงคิดว่า พระเยซูเจ้าพูดผิด เปโตรนำพระองค์แยกออกไป ทูลทัดทานพระองค์ว่า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน”
เปโตรขอพระเยซูเจ้าให้ละทิ้งหนทางแคบและยากลำบากของพระองค์ คือ ไม่ผ่านความเจ็บปวด ก็ไม่ได้กำไร เพื่อตามหนทางง่ายและกว้างของโลก ถึงแม้พระเยซูเจ้าเพิ่มเรียกชื่อใหม่ว่า ศิลา ตอนนี้พระองค์มองหน้าเปโตรและกล่าวว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์”

วิถีทางของพระเจ้าแตกต่างมาจากวิถีทางของมนุษย์ เราต้องไม่ลืมคำสอนนี้ เหมือนเหรียญย่อมมีสองด้าน พระวรสารก็มีสองด้าน ผ่านกางเขนและพบมงกุฎ ถ้าเราพยายามรับเพียงด้านเดียว ด้านสิริมงคล และปฏิเสธด้านความทุกข์ทรมาน เราเข้าใจพระวรสารผิด พระเยซูเจ้าองค์เดียวกันนี้ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน” (มธ 12:28) “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิตนิรันดร”

พี่น้อง ให้เราคิดดู เรามาหาพระเยซูเจ้าเพื่อรับอิสระจากภาระที่ไร้ผลและไร้ความหมาย แบกไม้กางเขนเพื่อนำเราไปสู่ (ความสำเร็จ) สิริรุ่งโรจน์ และความรอดพ้น พระวาจาของพระเยซูเจ้าวันนี้ท้าทายเราให้ปฏิเสธ ข่าวดีชั่วคราวของโลกที่เคลือบน้ำตาลพร้อมกับสัญญาผิดๆ พี่น้องเคยได้ยินโฆษณาที่กล่าวว่า “เพียงแต่เชื่อเท่านั้น และทุกสิ่งจะดีเอง” พี่น้องรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ดีหมดกับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขน ไม่ได้ดีหมดกับพระนางมารีย์ ได้รับความทุกข์เหมือนดาบแทงทะลุจิตใจของพระนาง บรรดานักบุญและมรณสักขีต่างๆ ก็เช่นกัน พบกับความไม่สมหวัง การสูญเสีย ความป่วยไข้ ความไม่สำเร็จ และความอกตัญญู
เราไม่ควรถามว่า ทำไมต้องเป็นฉัน แต่การตอบของเราควรเป็นการตระหนักยอมรับว่าการทดลองต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเตรียมรับสิริรุ่งโรจน์ในอนาคต พี่น้องพบกางเขน (Cross) ในโลกนี้ แต่พี่น้องจะได้รับมงกุฎ (Crown) ในสวรรค์

บิชอปวีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก  Homilies  โดย  Catholic Diocese of Lansing,
(กรกฎาคม – กันยายน 2014),  หน้า  366 –  368.